สารบัญ
- วิตามินซี (Vitamin C) คืออะไร!?
- 5 ประโยชน์ที่สำคัญของวิตามินซี
- ประโยชน์ด้านสุขภาพอื่น ๆ ที่น่าสนใจของวิตามินซี
- คนกลุ่มไหนบ้างที่มีความเสี่ยงต่อสภาวะร่างกายขาดแคลนวิตามินซี!?
- รูปแบบการทานของวิตามินซี ที่วางจำหน่ายอยู่ในปัจจุบัน มีอะไรกันบ้าง!?
- Vitamin C ยี่ห้อไหนดีต่อสุขภาพ คุ้มค่าสมราคาที่ต้องจ่ายมากที่สุดในปี 2021
- มารู้จักกับเซรั่มวิตามินซี (Serum Vitamin C)
- ประโยชน์ที่น่าสนใจของเซรั่ม Vitamin C ในการช่วยดูแลผิวพรรณ
- คอลลาเจน เซรั่ม วิตามินซีเข้มข้น คืออะไร!?
- รีวิว 5 เซรั่มวิตามินซี ที่มีประสิทธิภาพน่าสนใจมากที่สุดในปี 2021
- 5 เคล็ดลับใช้เซรั่มวิตามินซีอย่างไรให้เกิดประสิทธิภาพในการบำรุงผิวพรรณมากที่สุด
- วิธีการทําเซรั่มวิตามินซีใช้ด้วยตัวเอง
- บทสรุปส่งท้าย : วิตามินซีและเซรั่ม Vitamin C เลือกใช้งานให้ถูก
สามารถดูสินค้าจริงได้ที่ Euphoria Thailand ทุกสาขา
รวมความรู้เกี่ยวกับ [วิตามินซี] กับ #เซรั่ม Vitamin C ประโยชน์แห่งความงามและสุขภาพ ช่วยให้ผิวขาว สว่าง กระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติ
เชื่อว่าชื่อของ “วิตามินซี” (Vitamin C) คงเป็นสิ่งที่คุ้นหูของทุกคน เพราะมันเป็นหนึ่งในสารอาหารขั้นพื้นฐานที่ทุกคนต่างต้องเคยทำความรู้จักในชั้นเรียน และยังได้รับความนิยมกันเป็นอย่างมากในฐานะอาหารเสริม หรือส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์เสริมความงามมากมายในปัจจุบัน
ถึงแม้ว่าทุกคนจะรู้จักวิตามินซี แต่เชื่อว่าคงจะมีน้อยคนที่ได้มีโอกาสทำการศึกษาเกี่ยวกับวิตามินซีอย่างถ่องแท้ ดังนั้น เพื่อเป็นการช่วยให้คุณผู้อ่านที่กำลังค้นคว้า หาข้อมูลเกี่ยวกับวิตามินซีอยู่ บทความชิ้นนี้จึงได้ทำการรวบรวมทุกเรื่องราวที่น่ารู้และควรรู้! เกี่ยวกับวิตามินซี และเซรั่มวิตามินซีมาฝากกันแบบครบถ้วน จนไม่จำเป็นจะต้องไปหาข้อมูลเพิ่มเติมจากที่ไหนอีกเลย
ส่วนข้อมูลเกี่ยวกับวิตามินซีและเซรั่มวิตามินซี หรือเซรั่มวิตซี ที่กล่าวถึงจะมีอะไรที่น่าสนใจกันบ้าง อย่ามัวเสียเวลาอารัมภาบทอยู่ดีกว่า ไปติดตามข้อมูลกันเลย…
วิตามินซี (Vitamin C) คืออะไร!?
วิตามินซี (Vitamin C) มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า (Ascorbic Acid) เป็นวิตามินที่มีความสำคัญอย่างมากต่อร่างกายของมนุษย์ โดยเฉพาะในส่วนของภูมิคุ้มกัน
แต่ที่รู้จักกันเป็นอย่างดีที่สุดคือคุณสมบัติในการช่วยบำรุงผิวพรรณจากสารต่อต้านอนุมูลอิสระที่เกิดขึ้นจากกระบวนการสันดาปของร่างกายและมลพิษต่าง ๆ ที่ทำให้เซลล์ภายในร่างกายเกิดการเสื่อมสภาพ ช่วยชะลอริ้วรอย ความแก่ชรา สิ่งเหล่านี้ช่วยฟื้นฟูให้ผิวพรรณกลับมามีสุขภาพที่ดีได้มากยิ่งขึ้นกว่าเดิม
ถึงแม้ว่าวิตามินซี (Vitamin C) จะมีประโยชน์อย่างมาก แต่เป็นที่น่าเสียดายว่าร่างกายของมนุษย์ไม่สามารถสร้างวิตามินซีขึ้นมาได้เอง ดังนั้น จึงจำเป็นที่จะต้องได้รับวิตามินซีจากการทานอาหารเช่น ผัก ผลไม้ เป็นต้น เข้ามาทดแทนวิตามินซีที่ถูกนำไปใช้ในร่างกายในปริมาณที่เพียงพออย่างสม่ำเสมอ
5 ประโยชน์ที่สำคัญของวิตามินซี
วิตามินซี เป็นสารอาหารที่สำคัญมากมายต่อร่างกายของมนุษย์ แต่โดยทั่วไปแล้วประโยชน์ของวิตามินซี สามารถสรุปแบ่งออกได้เป็น 5 หัวข้อหลัก ดังต่อไปนี้
อ่านเพิ่มเติมเรื่อง : 5 ประโยชน์ของวิตามินซี ที่เป็นส่วนผสมหลักอยู่ในสกินแคร์
1. ประโยชน์ของวิตามินซี: ช่วยทำให้ผิวสวยกระจ่างสดใสมากขึ้นกว่าเดิม
วิตามินซี สามารถช่วยในการยับยั้งเอนไซม์ไทโรสิเนส (Tyrosinase enzyme) ที่ทำให้เกิดกระบวนการสร้างเม็ดสีเมลานิน เมื่อเม็ดสีผิวมีปริมาณน้อยลงก็จะทำให้ผิวพรรณมีความกระจ่างใส ในขณะเดียวกันจุดด่างดำก็จะลดน้อยลงกว่าเดิม
2. ประโยชน์ของวิตามินซี: สารต่อต้านอนุมูลอิสระชั้นยอด
วิตามินซี มีคุณสมบัติในการช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ (Anti-oxidant) ทำให้ลดความเสียหายในชั้นผิวที่ถูกทำลายจากกระบวนการเกิดอนุมูลอิสระได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะอนุมูลอิสระที่เกิดขึ้นจากรังสี UV เหมาะอย่างมากสำหรับคนที่จำเป็นต้องออกไปนอกอาคารในตอนกลางวันบ่อยครั้ง
3. ประโยชน์ของวิตามินซี: กระตุ้นเพิ่มการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิว
วิตามินซี ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลาเจนในชั้นผิวหนังแท้ให้มากขึ้น ทำให้ผิวมีความเต่งตึง ลดความหย่อนคล้อย ริ้วรอยที่เกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ
4. ประโยชน์ของวิตามินซี: เพิ่มระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น
การทานวิตามินซีอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกวัน ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายให้มีความแข็งแรงมากขึ้น ช่วยลดความรุนแรงจากหวัด ลดอาการแพ้จากสารที่กระตุ้นให้เกิดอาการภูมิแพ้ รวมไปถึงการช่วยลดโอกาสติดเชื้อไวรัสและเชื้อแบคทีเรีย ช่วยกระตุ้นการทำงานของเม็ดเลือดขาว
5. ประโยชน์ของวิตามินซี: ช่วยลดปริมาณคอเลสเตอรอลในเลือด
นอกจากวิตามินซีจะช่วยลดปริมาณของคอเลสเตอรอลในเลือดให้น้อยลงแล้ว ยังช่วยลดการเกิดปัญหาการอุดตันในหลอดเลือดดำได้ด้วยเช่นกัน
ประโยชน์ด้านสุขภาพอื่น ๆ ที่น่าสนใจของวิตามินซี
นอกจากประโยชน์ของวิตามินซีที่ได้ทำการแนะนำไปแล้วในตอนต้น ยังมีประโยชน์ในด้านอื่น ๆ ที่ควรทราบอีก ดังต่อไปนี้
- วิตามินซี ช่วยฟื้นฟูร่างกายหลังจากการออกกำลังกาย
- วิตามินซี ช่วยลดอาการอักเสบของกล้ามเนื้อ
- วิตามินซี ช่วยให้การดูดซึมแร่ธาตุบางชนิดให้ดียิ่งขึ้น เช่น ธาตุเหล็ก เป็นต้น เป็นการช่วยป้องกันร่างกายไม่ให้เกิดสภาวะขาดธาตุเหล็ก
- วิตามินซี ช่วยย่นระยะเวลาทำให้บาดแผลหายเร็วมากขึ้น
- วิตามินซี ช่วยทำให้สุขภาพของผู้หญิงโดยรวมดีขึ้นกว่าเดิม
- วิตามินซี อาจช่วยลดปัญหาความดันโลหิตสูงให้น้อยลง
- วิตามินซี อาจช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคเรื้อรัง จากคุณสมบัติสารต่อต้านอนุมูลอิสระตามธรรมชาติ
- วิตามินซี อาจช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจ
- วิตามินซี อาจช่วยลดระดับกรดยูริกในเลือดและช่วยป้องกันโรคเกาต์
- วิตามินซี ช่วยปกป้องความจำและการใช้ความคิดยามเมื่ออายุมากขึ้น
- วิตามินซี ช่วยลดความเครียดให้น้อยลง
- วิตามินซี ช่วยลดโอกาสเกิดโรคหลอดเลือดในสมอง
- วิตามินซี ช่วยปกป้องดวงตาจากโรคประสาทตาเสื่อม
- วิตามินซี ช่วยบรรเทาอาการโรคเบาหวาน ลดความรุนแรงให้น้อยลง
- วิตามินซี ช่วยลดอาการเมารถให้น้อยลง
วิตามินซีกับประโยชน์ต่อเด็กที่มักถูกมองข้ามอย่างน่าเสียดาย!
ทุกคนทราบกันดีกว่าวิตามินซีนั้นมีประโยชน์ต่อสุขภาพเป็นอย่างมาก แต่ส่วนใหญ่มักจะให้ความสนใจไปที่ผู้ใหญ่และผู้ป่วยที่มีภาวะขาดวิตามินซีเท่านั้น แต่ที่จริงแล้ววิตามินซี ยังมีประโยชน์กับการเจริญเติบโตของเด็ก ๆ เป็นอย่างมากเลยทีเดียว เพราะวิตามินซี ช่วยในเรื่องของพัฒนาการของร่างกายของเด็ก ดังต่อไปนี้
- วิตามินซี ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน หลอดเลือด กระดูกอ่อน กล้ามเนื้อ เนื้อเยื่อใหม่ในร่างกาย ผิวหนังและซ่อมแซมแผลจากความเสียหาย
- วิตามินซี มีส่วนในการช่วยสร้าง “สารสื่อประสาท” ที่มีความสำคัญอย่างมากต่อกระบวนการส่งสัญญาณของระบบประสาทไปทั่วร่างกาย
- วิตามินซี ช่วยในการสร้างสาร “คาร์นิทีน” ที่จะช่วยสลายกรดไขมัน เพื่อนำไปใช้เป็นพลังงานในการขับเคลื่อนร่างกาย
- วิตามินซี ช่วยเสริมสร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรงที่มีความสำคัญอย่างมากในช่วงวัยเจริญพันธุ์ของบเด็ก ๆ
ผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นหากร่างกายไม่ได้รับวิตามินซีอย่างเพียงพอ
ถ้าหากร่างกายไม่ได้รับวิตามินซีในปริมาณที่เหมาะสมเพียงพอในแต่ละวัน ก็เสี่ยงที่จะทำให้เกิดอาการผิดปกติอันไม่พึงประสงค์ ส่วนใหญ่แล้วอาการมักจะเกิดขึ้นหลังจากที่ทานวิตามินซีเพียงเล็กน้อยหรือไม่ได้ทานเลยเป็นเวลานาน 1 เดือน โดยเรียงลำดับจากอาการน้อยไปหามาก ดังต่อไปนี้
- อาการขาดวิตามินซี ทำให้เกิดปัญหาเลือดออกตามไรฟัน
- อาการขาดวิตามินซี ความรู้สึกเหนื่อยล้า
- อาการขาดวิตามินซี เจ็บป่วย เป็นไข้
- อาการขาดวิตามินซี เหงือกอักเสบ
- อาการขาดวิตามินซี การสังเคราะห์คอลลาเจนเกิดความบกพร่อง ริ้วรอยบนผิวเพิ่มมากขึ้น
- อาการขาดวิตามินซี เกิดรอยหมองคล้ำบนผิว ผื่นแดง รอยจ้ำ
- อาการขาดวิตามินซี อาการปวดข้อ
- อาการขาดวิตามินซี ความสามารถในการรักษาบาดแผลลดน้อยลง
- อาการขาดวิตามินซี อาการซึมเศร้า
- อาการขาดวิตามินซี สูญเสียฟัน เนื่องจากเนื้อเยื่อและเส้นเลือดฝอยในช่องปากเปราะบาง
- อาการขาดวิตามินซี อาการโลหิตจาง เพราะการดูดซึมธาตุเหล็กต่ำ
- อาการขาดวิตามินซี อาจเกิดโรคเกี่ยวกับกระดูกขึ้นในเด็ก
- อาการขาดวิตามินซี อาจถึงขั้นเสียชีวิตจากภาวะเลือดออกตามไรฟัน
**อาการผลข้างเคียงในข้างต้นจะเริ่มปรากฏขึ้นให้เห็น เมื่อปริมาณของวิตามินซีในร่างกายลดน้อยลงต่ำกว่า 10 มิลลิกรัมต่อวัน ติดต่อกันเป็นระยะเวลานานหลายสัปดาห์
คนกลุ่มไหนบ้างที่มีความเสี่ยงต่อสภาวะร่างกายขาดแคลนวิตามินซี!?
สำหรับคนที่ตกอยู่ในกลุ่มของคนที่มีความเสี่ยงร่างกายจะขาดแคลนวิตามินซี จนนำไปสู่การเกิดโรคหรือข้อบกพร่องด้านสุขภาพร่างกายนั้น ได้แก่กลุ่มคนดังต่อไปนี้
1. กลุ่มคนที่มีแนวโน้มขาดวิตามินซี : ผู้สูบบุหรี่
การศึกษาพบว่า คนที่สูบบุหรี่จะมีปริมาณของวิตามินซีในพลาสมาและเม็ดเลือดขาวต่ำกว่าคนที่ไม่สูบบุหรี่ ทำให้มีความต้องการวิตามินซีเข้าไปทดแทนมากกว่าคนปกติทั่วไปถึง 35 มิลลิกรัม ต่อวัน นอกจากนี้ คนที่สูดควันบุหรี่ หรือที่มักเรียกกันว่าบุหรี่มือสองเองก็ปริมาณของวิตามินซีในร่างกายเองก็จะลดน้อยลงด้วยเช่นกัน
2. กลุ่มคนที่มีแนวโน้มขาดวิตามินซี : ทารกที่ไม่ได้ดื่มนมมารดา
สำหรับทารกที่ได้ดื่มนมมารดาหรือนมผงสูตรสำหรับเด็กทารกโดยเฉพาะจะได้รับปริมาณของวิตามินซีอย่างเหมาะสม แต่ทารกที่ดื่มนมวัวแบบระเหยหรือการต้มจะทำให้เกิดสภาวะขาดแคลนวิตามินซี เนื่องจากความร้อนจะทำลายวิตามินซีภายในน้ำนมไปจนเกือบหมด
3. กลุ่มคนที่มีแนวโน้มขาดวิตามินซี : ผู้ที่ทานอาหารได้จำกัดปราศจากความหลากหลาย
เป็นที่ทราบกันดีว่าผักและผลไม้หลายชนิด เป็นแหล่งวิตามินซีชั้นดี แต่สำหรับคนที่มีข้อจำกัดด้านอาหารหรือไม่สามารถเข้าถึงอาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินซีได้ ก็อาจจะทำให้เกิดภาวะขาดแคลนวิตามินซีได้เช่นกัน
4. กลุ่มคนที่มีแนวโน้มขาดวิตามินซี : ผู้ที่มีปัญหาการดูดซึมและปัญหาสุขภาพบางประการ
เงื่อนไขด้านสุขภาพบางประการอาจทำให้เกิดปัญหาในการดูดซึมวิตามินซีเข้าสู่ร่างกาย เช่น คนที่มีปัญหาภาวะการดูดซึมของลำไส้บกพร่อง (Cachexia) ขั้นรุนแรง ผู้ป่วยโรคมะเร็ง และโรคไตวายเรื้อรังระยะสุดท้ายที่อยู่ในระหว่างการฟอกไต เป็นต้น
วิตามินซี 500 mg. เหมาะกับคนที่มีปัญหาสุขภาพหรือเปล่า!?
สำหรับคนที่มีปัญหาสุขภาพในข้างต้น เหมาะกับการกินวิตามินซีเสริม 500 mg. ขึ้นไป ถือว่ากำลังเพียงพอ เพราะไม่มากจนเกินไปกระทั่งสร้างภาระให้กับร่างกาย และไม่น้อยจนเกินไป สามารถช่วยในการบำรุงสุขภาพกับผิวพรรณในระดับที่เหมาะสม
ปริมาณวิตามินซีที่ร่างกายต้องการอย่างเหมาะสมต่อวัน (สำหรับคนทั่วไป)
สำหรับปริมาณของวิตามินซีที่เหมาะสมสำหรับคนทั่วไปนั้น สามารถทำการอ้างอิงได้จากตารางดังต่อไปนี้
ช่วงอายุ |
เพศชาย |
เพศหญิง |
ขณะตั้งครรภ์ |
ให้นมบุตร |
0-6 เดือน |
40 มิลลิกรัม |
40 มิลลิกรัม |
– |
– |
7-12 เดือน |
50 มิลลิกรัม |
50 มิลลิกรัม |
– |
– |
1-3 ปี |
15 มิลลิกรัม |
15 มิลลิกรัม |
– |
– |
4-8 ปี |
25 มิลลิกรัม |
25 มิลลิกรัม |
– |
– |
9-13 ปี |
45 มิลลิกรัม |
45 มิลลิกรัม |
– |
– |
14-18 ปี |
75 มิลลิกรัม |
65 มิลลิกรัม |
80 มิลลิกรัม |
115 มิลลิกรัม |
อายุ 19 ปี ขึ้นไป |
92 มิลลิกรัม |
75 มิลลิกรัม |
85 มิลลิกรัม |
120 มิลลิกรัม |
***คนที่สูบบุหรี่ มีความต้องการวิตามินซีในปริมาณมากกว่าในตารางตามช่วงอายุ +35 มิลลิกรัม / วัน
ไขปริศนาคาใจทานวิตามินซีวันละ 1,000 มิลลิกรัม ดีหรือไม่ต่อสุขภาพ!?
ประเด็นการทานวิตามินซีวันละ 1,000 มิลลิกรัม ยังคงเป็นหัวข้อที่ถกเถียงกันอย่างมากว่าสรุปแล้วเป็นผลดี หรือผลเสียต่อสุขภาพกันแน่!?
อ้างอิงจากคำแนะนำของแพทย์ ปริมาณของวิตามินซีต่อวันที่ทานเข้าสู่ร่างกายไม่ควรเกินวันละ 1,000 มิลลิกรัม ซึ่งถือว่าเป็นเพดานสูงสุดที่ทางร่างกายสามารถทำการขจัดออกเองได้ตามธรรมชาติ และปริมาณที่มากจนเกินไปอาจยังทำให้เกิดผลข้างเคียงไม่พึงประสงค์อีกหลายรายการที่จะขอกล่าวถึงในหัวข้อถัดไป
ผลข้างเคียงจากการกินวิตามินซีเป็นเวลานาน!?
ถึงแม้ว่าวิตามินซีจะมีประโยชน์มากมายต่อร่างกาย แต่การกินในปริมาณที่มากจนเกินไปต่อเนื่องเป็นระยะเวลานานก็อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพได้เช่นกัน สำหรับผลข้างเคียงจากการกินวิตามินซีจนเกินพอดี มีดังต่อไปนี้
- เกิดความรู้สึกไม่สบายท้อง
- เกิดความรู้สึกปวดมวนท้อง
- เกิดอาการท้องเสียอย่างรุนแรง
- เกิดอาการปัสสาวะบ่อย
- เกิดอาการภาวะโลหิตจาง
- เพิ่มโอกาสเสี่ยงในการเป็นนิ่วในไต
อย่างไรก็ตาม โอกาสที่จะเกิดผลข้างเคียงจากการทานวิตามินซีในข้างต้นเหล่านี้ เป็นสิ่งที่มีโอกาสเกิดขึ้นได้ค่อนข้างน้อย เนื่องจากวิตามินซีเป็นวิตามินที่สามารถ “ละลายน้ำได้” ทำให้สามารถถูกขับออกจากทางร่างกายได้ทางปัสสาวะ ดังนั้น ต่อให้ทานเข้าไปมากเพียงใด ร่างกายก็จะสามารถขับมันออกมาตามธรรมชาติได้นั่นเอง
กินวิตามินซีแล้วฉี่เป็นสีเหลืองอันตรายหรือเปล่า!?
สำหรับประเด็นนี้ ทางสำนักคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้มีการอธิบายเอาไว้ว่า เมื่อกินวิตามินซีแล้วเกิดอาการฉี่เหลืองขึ้นมานั้นถือเป็นเรื่องที่ปกติ แสดงให้เห็นว่าร่างกายได้ทำการละลายวิตามินซีที่มีอยู่ปริมาณมากในร่างกายออกมาในรูปแบบของฉี่ ทำให้เกิดสีเหลืองเข้มมากขึ้นกว่าปกติ
ถึงแม้ว่าฉี่สีเหลืองที่เกิดขึ้นจากการทานวิตามินซีจะไม่เป็นอันตราย แต่ก็ควรระมัดระวังไม่ให้มีการทานวิตามินซีเป็นจำนวนมากเกินความต้องการเป็นเวลาติดต่อกันนานจนเกินไป เพราะอาจทำให้เกิดการตกตะกอนทำให้เกิดปัญหา “นิ่วในไต” ได้เช่นกัน
การกินวิตามินซี มีผลกระทบกับตัวยาหรือการรักษาด้านการแพทย์หรือเปล่า!?
ผลกระทบของการกินวิตามินที่มีต่อตัวยาหรือการรักษาพยาบาล มีหนึ่งประเด็นที่ยังคงเป็นข้อถกเถียงกันอยู่ในวงการแพทย์คือ กรณี “เคมีบำบัดและการฉายรังสี”
ข้อมูลจากการศึกษาบางส่วนระบุว่า สารต่อต้านอนุมูลอิสระในวิตามินซี อาจทำการปกป้องเซลล์เนื้องอกจากการฉายรังสีและยาเคมีบำบัด เช่น ตัวยาไซโคลฟอสฟาไมด์ คลอแรมบูซิล คาร์มัสทีน บูซัลแฟน ไทโอทีปา และด็อกโซรูบิซิน เป็นต้น
ดังนั้น คนที่กำลังจะเข้ารับการเคมีบำบัดหรือฉายรังสี ควรที่จะปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเนื้องอกวิทยาก่อนทำการทานวิตามินซี หรืออาหารเสริมต่อต้านอนุมูลอิสระอื่นในปริมาณที่สูง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษาให้มากขึ้นกว่าเดิม
วิตามินซี กินแทนยาแก้หวัดได้หรือเปล่า!?
เชื่อว่าหลายคนคงจะเคยได้ยินผ่านหูกันมาอย่างยาวนานว่า เมื่อเป็นหวัดสามารถกินวิตามินซีแทนยาแก้หวัดได้ แต่ที่จริงแล้วจากการศึกษาของคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ได้ทำการวิจัยเกี่ยวกับประเด็นนี้และมีความเห็นว่า วิตามินซี “ไม่สามารถกินแทนยาแก้หวัดได้”
นอกจากนี้ ผลการวิจัยยังพบอีกว่าการทานวิตามินซีเป็นประจำทุกวัน ก็ยังไม่ได้มีคุณสมบัติในการป้องกันหวัดและไม่สามารถลดความเสี่ยงในการเป็นหวัดได้เช่นกัน *ยกเว้น กลุ่มของคนที่ออกกำลังกายหรือเล่นกีฬาเป็นประจำ ที่สามารถลดความเสี่ยงจากการเป็นหวัดได้มากถึง 50%
อย่างไรก็ตาม ผลของการวิจัยยังคงค้นพบว่า การทานวิตามินซีเป็นประจำทุกวันจะช่วย “ลดความรุนแรง” และ “ระยะเวลาในการเป็นหวัด” ให้น้อยยลงกว่าเดิม โดยปริมาณที่เหมาะสมคือประมาณ 1-3 กรัม ต่อวัน ที่สำคัญคือ หากไม่ได้รับประทานวิตามินซีอย่างต่อเนื่อง แล้วเลือกมาทานหลังจากที่เป็นหวัดแล้ว วิตามินซีจะไม่ช่วยในเรื่องของหวัดแต่อย่างใด
ผลไม้อะไรบ้างที่มีปริมาณของวิตามินซีสูง ฝรั่ง ส้ม มังคุด เลือกทานอันไหนดีที่สุด!?
สำหรับคนที่เลือกทานวิตามินซีจากแหล่งธรรมชาติ อาจสงสัยว่าบรรดาผลไม้ในประเทศไทยนั้น เช่น ฝรั่ง ส้ม มังคุด เป็นต้น ชนิดไหนที่มีปริมาณของวิตามินซีน่าสนใจและมีปริมาณมากน้อยเพียงใดกันบ้าง ลองมาทำความรู้จักกับผลไม้ที่อุดมไปด้วยวิตามินซีกันเลย
ผลไม้ |
ปริมาณวิตามินซี / 100 กรัม |
ฝรั่ง |
160 มิลลิกรัม |
ส้ม |
53.2 มิลลิกรัม |
มะขามป้อม |
276 มิลลิกรัม |
สตรอว์เบอร์รี |
58.8 มิลลิกรัม |
ลิ้นจี่ |
71.5 มิลลิกรัม |
มะละกอ |
62 มิลลิกรัม |
ลูกพลับ |
61 มิลลิกรัม |
ส้มโอ |
61 มิลลิกรัม |
สับปะรด |
48 มิลลิกรัม |
กีวี่ |
105 มิลลิกรัม |
ระกำ |
91.72 มิลลิกรัม |
มะม่วง |
36.4 มิลลิกรัม |
มะนาว |
29.1 มิลลิกรัม |
แคนตาลูป |
60 มิลลิกรัม |
เสาวรส |
30 มิลลิกรัม |
ผักประเภทไหนบ้างที่อุดมไปด้วยวิตามินซีสูง!?
นอกจากการทานผลไม้เพื่อให้ได้รับวิตามินซีแล้ว ควรทำการทานผักที่มีวิตามินซีจำนวนมากเพื่อเป็นการเสริมปริมาณให้มีความเหมาะสมในแต่ละวัน และยังเป็นการช่วยเพิ่มคุณค่าทางด้านโภชนาการให้ครบ 5 หมู่มากยิ่งขึ้น สำหรับผักที่มีปริมาณของวิตามินซีสูงนั้น มีดังต่อไปนี้
ประเภทของผัก |
ปริมาณวิตามินซี / 100 กรัม |
ผักหวาน |
168 มิลลิกรัม |
ใบเหลียง |
192 มิลลิกรัม |
ปวยเล้ง |
120 มิลลิกรัม |
พริกหวาน |
80.4 มิลลิกรัม |
บร็อคโคลี่ |
89.2 มิลลิกรัม |
คะน้า |
147 มิลลิกรัม |
ใบมะรุม |
141 มิลลิกรัม |
กะหล่ำดอก |
48.2 มิลลิกรัม |
กะหล่ำดาว |
85 มิลลิกรัม |
ผักเคล |
120 มิลลิกรัม |
ชะอม |
58 มิลลิกรัม |
ผักโขม |
120 มิลลิกรัม |
มะระขี้นก |
0.4 มิลลิกรัม |
มะเขือเทศ (ขนาดกลาง) |
20 มิลลิกรัม |
มันฝรั่ง |
20 มิลลิกรัม |
มันเทศ |
2 มิลลิกรัม |
รูปแบบการทานของวิตามินซี ที่วางจำหน่ายอยู่ในปัจจุบัน มีอะไรกันบ้าง!?
สำหรับรูปแบบการทานวิตามินซีที่มีการวางจำหน่ายอยู่ในปัจจุบันสามารถแบ่งออกได้เป็นหลายแบบ โดยถูกออกแบบมาเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ที่ต้องการทานวิตามินซี สำหรับรูปแบบของวิตามินซีที่พบได้บ่อยในปัจจุบันนั้น มีดังต่อไปนี้
1. วิตามินซีรูปแบบเม็ด
วิตามินซีรูปแบบมาตรฐานที่สามารถหาซื้อได้จากร้านขายยาหรือห้างสรรพสินค้าทั่วไป มีลักษณะเป็นเม็ดขนาดใหญ่ทำให้ค่อนข้างกลืนได้ลำบากและจำเป็นที่จะต้องดื่มน้ำตามเป็นจำนวนมาก เนื่องจากวิตามินซีในรูปแบบเม็ดต้องอาศัยน้ำช่วยในการแตกตัวของวิตามินซีในร่างกาย
2. วิตามินซีรูปแบบแคปซูล
วิตามินซีรูปแบบแคปซูลสามารถทานได้ง่ายกว่าแบบเม็ด สามารถกลืนได้ง่ายและแตกตัวเพื่อให้ร่างกายนำไปใช้ประโยชน์ได้อย่างรวดเร็วมากกว่ารูปแบบเม็ด
3. วิตามินซีรูปแบบเคี้ยว
วิตามินซีแบบเคี้ยวจะมีลักษณะที่ดูคล้ายกับเยลลี่ มักได้รับการปรุงแต่งสี กลิ่นและรสชาติจนดูคล้ายกับขนมรสหวาน เหมาะสำหรับเด็กที่ไม่ชอบทานวิตามินซีในรูปแบบของยา แต่ปริมาณของวิตามินซี
อาจจะค่อนข้างน้อยกว่ารูปแบบอื่น ดังนั้น ควรเลือกวิตามินซีรูปแบบเคี้ยวให้มีปริมาณของวิตามินที่เหมาะสม โดยตรวจสอบจากฉลากของผลิตภัณฑ์
4. วิตามินซีรูปแบบผง
เป็นวิตามินซีที่เหมาะกับคนที่ต้องการผสมเข้ากับน้ำเปล่าหรือน้ำผลไม้สำหรับชงดื่ม ทำให้สามารถดื่มวิตามินซีเข้าสู่ร่างกายได้อย่างรวดเร็วและง่ายดายมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม
5. วิตามินซีแบบยาเม็ดฟู่
วิตามินซีประเภทนี้ สามารถดื่มได้อย่างง่ายดายและถูกเก็บเอาไว้ในลักษณะของเม็ดสำหรับใส่ลงไปในแก้วน้ำเปล่าก็จะเกิดการแตกตัว กลายมาเป็นวิตามินแบบน้ำพร้อมดื่มได้อย่างง่ายดายและสามารถละลายน้ำได้อย่างรวดเร็วมากกว่าแบบผง อีกทั้งร่างกายยังสามารถดูดซึมวิตามินซีเพื่อนำไปใช้งานได้อย่างรวดเร็วมากที่สุดอีกด้วย
6. วิตามินซีแบบน้ำ
วิตามินซีแบบน้ำ กำลังได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นเป็นอย่างมาก เหมาะสำหรับคนที่ไม่ชอบการกลืนเม็ดวิตามินซี หรือเด็ก ๆ อย่างไรก็ตาม การเลือกซื้อวิตามินซีแบบน้ำ ควรหลีกเลี่ยงแบบที่มีส่วนผสมของน้ำตาลอยู่เป็นปริมาณมาก เพราะไม่เป็นผลดีต่อร่างกายและอาจทำให้เกิดปัญหาฟันผุได้อีกด้วย
7. วิตามินซีแบบเม็ดอม
วิตามินซีแบบเม็ดอม เหมาะกับคนที่ไม่ชอบการกลืนยา ทำให้การอมอาจเป็นคำตอบที่ดี แต่ก็ไม่ควรทำการอมบ่อยมากจนเกินไป เนื่องจากกรดของวิตามินซีอาจทำลายสารเคลือบฟันจนนำไปสู่ปัญหาการเกิดฟันผุกร่อนได้เช่นกัน
8. วิตามินซีแบบฉีด (Vitamin C Injection)
เป็นวิตามินในรูปแบบของยาที่จำเป็นจะต้องฉีดเข้าสู่ร่างกาย โดยขั้นตอนนี้จะต้องทำโดยแพทย์หรือนางพยาบาลเท่านั้น นอกจากนี้ยังไม่เหมาะสำหรับการใช้เป็นประจำทุกวันอีกด้วย สำหรับคนที่เหมาะกับการฉีดวิตามินซี (Vitamin C Injection) เหมาะกับคนที่เกิดภาวะวิตามินซีบกพร่อง หรือคนที่ร่างกายขาดวิตามินซีอย่างมากเท่านั้น
การฉีดวิตามินซี (Vitamin C Injection) ช่วยทำให้ผิวขาวได้จริงหรือเปล่า!?
ในกลุ่มของคนที่รักสวยรักงามมีความเชื่อว่าการฉีดวิตามินซี (Vitamin C Injection) เข้าสู่ร่างกาย จะช่วยทำให้ “ผิวขาว” ได้อย่างรวดเร็วมากกว่าการกินวิตามินซีเป็นอาหารเสริม เพราะเป็นการฉีดเข้าสู่เส้นเลือดโดยตรง
กระแสความเชื่อนี้ทำให้เกิดความนิยมพบแพทย์ด้านความงามเพื่อทำการฉีดวิตามินซี (Vitamin C Injection) โดยปกติแล้วคอร์สการฉีดจะอยู่ที่ประมาณทั้งหมด 10 เข็ม ทำการฉีกสัปดาห์ละสองเข็มและผลลัพธ์ด้านผิวขาวจะเริ่มปรากฏให้เห็นเมื่อฉีดตั้งแต่เข็มที่สองเป็นต้นไป
อย่างไรก็ตาม งานวิจัยหลายชิ้นได้มีผลออกมาแย้งกับความเชื่อนี้ เพราะพบว่าการการฉีดวิตามินซี (Vitamin C Injection) เข้าสู่เส้นเลือดโดยตรงจะมีอันตรายมากกว่าการทานวิตามินซีเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะการฉีกเข้าสู่ “เส้นเลือดดำ” ในปริมาณมากกว่า 500 มิลลิกรัม
ใครบ้างที่ไม่ควรฉีดวิตามินซี (Vitamin C Injection)
ไม่ใช่ว่าทุกคนที่สามารถทำการฉีดวิตามินซี (Vitamin C Injection) เข้าสู่เส้นเลือดได้ ถ้าหากคุณผู้อ่านอยู่ในกลุ่มเสี่ยงที่มีปัญหาสุขภาพดังต่อไปนี้ ขอแนะนำให้หลีกเลี่ยงการฉีดวิตามินซี (Vtamin C Injection) จะเป็นผลดีกับตัวเองมากกว่า
- ผู้ป่วยโรคตับ
- ผู้ป่วยโรคนิ่ว
- ผู้ป่วยที่มีภาวะเอนไซม์บกพร่อง (G6PD Deficiency)
- ผู้ป่วยที่มีภาวะของธาตุเหล็กในร่างกายที่มากเกินกำหนด
- ผู้หญิงที่กำลังอยู่ในระหว่างการตั้งครรภ์
เก็บรักษาวิตามินซีอย่างไร ถึงจะยังสภาพความเป็นยาได้อย่างยาวนาน!?
สรรพคุณของวิตามินซีจะสามารถแสดงผลลัพธ์ให้เห็นได้อย่างเต็มที่และเป็นยารักษาหวัดได้อย่างยอดเยี่ยมถ้าหากได้รับการเก็บรักษาเอาไว้อย่างเหมาะสม โดยควรอยู่ในบริเวณที่แห้งและไม่สัมผัสถูกกับแสงแดดโดยตรง
ถ้าหากใครสงสัยว่าวิตามินซีที่เก็บเอาไว้เสื่อมสภาพจากฐานะของยาแล้วหรือไม่!? สามารถสังเกตได้จากสีของวิตามินซี ถ้าหากเปลี่ยนจากสีส้มกลายเป็นสีเหลืองหลังจากที่เปิดใช้งานแล้ว แสดงว่าวิตามินซีเหล่านั้นเสื่อมสภาพแล้วและไม่ควรนำมารับประทาน
วิตามินซีกินตอนไหนได้ประโยชน์ต่อร่างกายมากที่สุด!?
คณะเภสัช มหาวิทยาลัยมหิดล ได้ให้คำแนะนำเอาไว้ว่า การทานวิตามินซีนั้นสามารถที่จะทำได้ตามความสะดวก แต่ไม่ควรทานตอน “ท้องว่าง” และควรทาน “หลังหรือพร้อมอาหาร” เนื่องจากอาหารจะช่วยกระตุ้นร่างกายให้มีการดูดซึมนำวิตามินซีไปใช้งาน และยังช่วยป้องกันอาการระคายเคืองที่อาจเกิดขึ้นจากกรดของวิตามินซีได้อีกด้วย
ทานวิตามินซีกับอะไรมีประโยชน์มากที่สุด!?
สำหรับสารอาหารที่สามารถทานคู่กับวิตามินซีได้ แถมยังช่วยส่งเสริมประสิทธิภาพในการบำรุงสุขภาพและความสวยงามของร่างกายได้มากยิ่งขึ้น มีอยู่ 3 ประเภทที่ควรทราบ ดังต่อไปนี้
1. ทานวิตามินซีคู่กับธาตุเหล็ก
วิตามินซีมีคุณสมบัติช่วยทำให้ร่างกายมีการดูดซึมธาตุเหล็กได้มากขึ้นกว่าเดิม ร่างกายจึงสามารถสร้างเม็ดเลือดแดงได้มากขึ้น ป้องกันการเกิดสภาวะผิวพรรณซีดเซียวจากการขาดธาตุเหล็กได้เป็นอย่างดี
2. ทานวิตามินซีคู่กับคอลลาเจน
วิตามินซีมีคุณสมบัติในการละลายน้ำ ทำให้เมื่อทานคู่กับคอลลาเจน ร่างกายก็จะยิ่งสามารถดูดซับน้ำคอลลาเจนไปใช้ในการซ่อมแซมเนื้อเยื่อที่เสื่อมสภาพให้กลับสู่สภาพที่สมบูรณ์มากขึ้นกว่าเดิมและเมื่อทานคู่กันเป็นประจำสม่ำเสมอก็จะช่วยลดการเกิดการสร้างเม็ดสีเมลานินให้น้อยลง ฟื้นฟูผิวที่เสียจากแสงแดด ผิวพรรณเปล่งปลั่งดูมีสุขภาพที่ดีมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม
3. ทานวิตามินซีคู่กับกลูต้าไธโอน
เมื่อทานวิตามินซีกับกลูต้าไธโอน ก็จะทำให้ผิวพรรณในร่างกายมีสุขภาพที่ดีมากขึ้นกว่าเดิม นอกจากนี้ยังช่วยขับสารพิษที่ไม่พึงประสงค์ออกจากเซลล์ โดยเฉพาะสารโลหะหนัก สารพิษและอนุมูลอิสระ ที่เป็นอันตรายต่อระบบการทำงานต่าง ๆ ของเซลล์ และลดกระบวนการเกิดเม็ดสีเมลานินที่นำไปสู่ปัญหาผิวคล้ำเสียได้อีกด้วย
Vitamin C ยี่ห้อไหนดีต่อสุขภาพ คุ้มค่าสมราคาที่ต้องจ่ายมากที่สุดในปี 2021
หลังจากที่ได้ทราบประโยชน์และวิธีการเลือกซื้อวิตามินซีที่น่าสนใจกันไปแล้วในข้างต้น คราวนี้ลองมาทำความรู้จักกันดีกว่าว่า Vitamin C [เซรั่มวิตามินซี] หรือ เซรั่มวิตซีเกาหลี ยี่ห้อไหนดี น่าซื้อมาติดบ้านเอาไว้เพื่อช่วยในการบำรุงสุขภาพให้แข็งแรงมากยิ่งขึ้นที่สุด
1. Vitamin C ยี่ห้อไหนดี #Blackmore
คุณสมบัติที่น่าสนใจของผลิตภัณฑ์วิตามินซี
- Vitamin C Blackmore มีส่วนผสมของวิตามินซี โรสฮิพ ดราย ฟรุท ไบโอฟลาโวนอยด์ รูทิน เฮสเพอริดิน และอะซีโรลา ดรายฟรุท
- Vitamin C Blackmore ส่วนผสมทั้งหมดมาจากธรรมชาติ
- Vitamin C Blackmore มีส่วนผสมของสารไบโอฟลาโวนอยด์ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดูดซึมวิตามินซีให้ดีมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม
ปริมาณของวิตามินซี |
1,000 มิลลิกรัม |
รูปแบบของวิตามินซี |
แบบเม็ด |
ขนาด |
31 เม็ด |
ราคา (โดยประมาณ) |
235 บาท |
2. Vitamin C ยี่ห้อไหนดี # Supurra Acerola Cherry Extract Vitamin C
คุณสมบัติที่น่าสนใจของผลิตภัณฑ์วิตามินซี
- Supurra Acerola Cherry Extract Vitamin C สกัดจาก Acerola Cherry ผลไม้ที่มีปริมาณวิตามินซีสูงมากที่สุดเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก
- Supurra Acerola Cherry Extract Vitamin C มีส่วนผสมของสารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายเป็นอย่างมาก อาทิเช่น ไบโอฟลาโวนอยด์และไฟโตนูเทรียนท์ เป็นต้น
ปริมาณของวิตามินซี |
1,000 มิลลิกรัม |
รูปแบบของวิตามินซี |
เม็ด |
ขนาด |
30 เม็ด |
ราคา (โดยประมาณ) |
399 บาท |
3. Vitamin C ยี่ห้อไหนดี # Nature’s Bounty, Vitamin C Gummies
คุณสมบัติที่น่าสนใจของผลิตภัณฑ์วิตามินซี
- Nature’s Bounty, Vitamin C Gummies ช่วยทานง่าย รสชาติอร่อย เหมาะกับเด็ก
- Nature’s Bounty, Vitamin C Gummies ช่วยเพิ่มระดับความภูมิกันของร่างกาย ป้องกันไข้หวัดและภูมิแพ้
- Nature’s Bounty, Vitamin C Gummies ช่วยทำให้ผิวพรรณสดใสมากขึ้นกว่าเดิม
- Nature’s Bounty, Vitamin C Gummies ช่วยลดเลือนรอยแผลเป็น
- Nature’s Bounty, Vitamin C Gummies ช่วยทำให้บาดแผลหายรวดเร็วมากขึ้น
ปริมาณของวิตามินซี |
250 มิลลิกรัม |
รูปแบบของวิตามินซี |
แบบเคี้ยว |
ขนาด |
80 เม็ด |
ราคา (โดยประมาณ) |
295 บาท |
4. Vitamin C ยี่ห้อไหนดี # Acorbic VITAMIN C
คุณสมบัติที่น่าสนใจของผลิตภัณฑ์วิตามินซี
- Acorbic VITAMIN C ช่วยเสริมภูมิคุ้มกันของร่างกายให้ดีมากขึ้นกว่าเดิม ลดอาการภูมิแพ้
- Acorbic VITAMIN C นำเข้าจากประเทศสหรัฐอเมริกา
- Acorbic VITAMIN C ป้องกันปัญหาโรคเลือดออกตามไรฟัน
- Acorbic VITAMIN C เมื่อทานเป็นประจำจะช่วยเสริมให้ผิวพรรณมีความกระจ่างสดใสมากขึ้นกว่าเดิม
ปริมาณของวิตามินซี |
1,000 มิลลิกรัม |
รูปแบบของวิตามินซี |
เม็ด |
ขนาด |
30 เม็ด |
ราคา (โดยประมาณ) |
120 บาท |
5. Vitamin C ยี่ห้อไหนดี # Kirkland Signature Vitamin C
คุณสมบัติที่น่าสนใจของผลิตภัณฑ์วิตามินซี
- Kirkland Signature Vitamin C นำเข้าและได้รับความนิยมอย่างมากจากประเทศสหรัฐอเมริกา
- Kirkland Signature Vitamin C มีส่วนผสมที่มีประโยชน์ต่อร่างกายและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของวิตามินซีให้มากยิ่งขึ้น อย่างเช่น สารไบโอฟลาโวนอยด์ เป็นต้น
ปริมาณของวิตามินซี |
1,000 มิลลิกรัม |
รูปแบบของวิตามินซี |
เม็ด |
ขนาด |
500 เม็ด |
ราคา (โดยประมาณ) |
1,000 บาท |
———————–
มารู้จักกับเซรั่มวิตามินซี (Serum Vitamin C) ผู้ช่วยที่จะทำให้ผิวภายนอกเปล่งประกายมากกว่าที่เคย!
หลังจากที่ได้ทำความรู้จักกับวิตามินซี ในฐานะของสารอาหารสารพัดประโยชน์ที่ช่วยบำรุงร่างกายให้แข็งแรง เปล่งประกายสุขภาพดีออกมาจากภายในกันแล้ว
เพื่อเป็นการช่วยยกระดับความสวยงามภายนอกควบคู่กันไปด้วย ในหัวข้อต่อไปก็ไม่ควรพลาดที่จะรู้จักกับเซรั่มวิตามินซีที่จะกลายมาเป็นผู้ช่วยมือดีในการยกระดับผิวพรรณให้สวยงาม สุขภาพดีภายนอกที่บอกเลยว่าไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวงกัน…
เซรั่มวิตามินซี คืออะไร!?
เซรั่มวิตามินซี คือ ผลิตภัณฑ์สำหรับใช้ในการบำรุงผิวพรรณที่มีส่วนผสมของวิตามินซีและสารต่อต้านอนุมูลอิสระ โดยเนื้อของเซรั่มวิตามินซีจะมอบเนื้อสัมผัสที่มีความเบาบางมากกว่าครีมส่งผลให้สามารถซึมซับเข้าสู่ชั้นผิวได้อย่างรวดเร็ว ไม่เหนียวเหนอะหนะ ไม่ทิ้งความมันส่วนเกินเอาไว้บนผิวหน้าและยังช่วยในการบำรุงผิวพรรณได้อย่างมีประสิทธิภาพที่มากกว่าครีมบำรุงผิวทั่วไปอย่างมาก
เมื่อไหร่ที่ควรเริ่มต้นใช้เซรั่มวิตามินซีในการบำรุงผิวพรรณ!?
โดยพื้นฐานแล้วสุขภาพผิวพรรณของคนเราจะไม่เหมือนกันขึ้นอยู่กับรูปแบบกิจกรรมการใช้ชีวิต ความเครียดและมลภาวะที่ต้องเผชิญในแต่ละวัน ทำให้บางคนที่ต้องใช้เวลากลางแจ้งบ่อยครั้งหรือมีความเครียดสะสมบ่อย อาจเกิดริ้วรอยขึ้นตั้งแต่อายุ 20 ปี กว่า ๆ ในขณะเดียวกันที่ไม่สามารถรับมือกับความเครียดได้อย่างเหมาะสมและใช้เวลาส่วนใหญ่ทำงานอยู่ในอาคาร กว่าริ้วรอยจะปรากฏให้เห็นเวลาก็ล่วงเลยไปถึงอายุ 40 ปี ก็มีเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ยิ่งอายุมากขึ้นเท่าไหร่ ผิวหนังที่เคยอุดมไปด้วยคอลลาเจนจำนวนมากที่ทำให้ผิวเรียบเนียน เด้ง นุ่มและสวยงาม การผลิตคอลลาเจนก็จะค่อย ๆ ลดน้อยลง ดังนั้น เพื่อเป็นการช่วยป้องการเสื่อมสภาพของอย่างรวดเร็วและบำรุงผิวพรรณอย่างเหมาะสมตั้งแต่เนิ่น ๆ การใช้เซรั่มวิตามินซีบำรุงผิวตั้งแต่อายุ 20 ปลาย ไปช่วงถึง 30 ต้น ๆ ถือว่าเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมมากที่สุดนั่นเอง
ประโยชน์ที่น่าสนใจของเซรั่ม Vitamin C ในการช่วยดูแลผิวพรรณ
เพื่อช่วยให้คุณผู้อ่านสามารถเข้าใจเกี่ยวกับประโยชน์ของเซรั่ม Vitamin C ได้อย่างง่ายดายมากยิ่งขึ้น ลองมาติดตามฟังข้อมูลสรุปที่น่าสนใจของเซรั่ม Vitamin C ผ่านหัวข้อย่อยดังต่อไปนี้กันได้เลย
1. เซรั่ม Vitamin C ซึมซาบสู่ผิวอย่างรวดเร็วและบำรุงผิวพรรณได้อย่างล้ำลึก
เซรั่ม Vitamin C มีคุณสมบัติที่น่าสนใจอย่างมากในการซึมซาบลงสู่ผิวหนังได้โดยตรง ไม่ต้องกังวลว่าเนื้อของเซรั่มจะถูกขจัดออกไปก่อนกระบวนการซึมซาบสู่ชั้นผิว จึงเป็นการช่วยสร้างความมั่นใจได้เป็นอย่างดีว่าประโยชน์ของเนื้อเซรั่มทั้งหมด จะถูกนำมาใช้ในการบำรุงผิวพรรณได้อย่างรวดเร็วและล้ำลึกมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม
2. เซรั่ม Vitamin C อุดมไปด้วยสารต่อต้านอนุมูลอิสระ
เซรั่ม Vitamin C ประกอบด้วยสารต่อต้านอนุมูลอิสระเป็นจำนวนมาก ที่มีคุณสมบัติในการช่วยต่อต้านริ้วรอยก่อนวัยอันควรพร้อมกับกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิวให้มากยิ่งขึ้นกว่าเดิม ลดปัญหารอยด่างดำ รอยแดงและเพิ่มนุ่มเด้ง นุ่มเนียนให้กับผิวพรรณมากขึ้นจนสามารถสัมผัสได้
3. เซรั่ม Vitamin C ช่วยยกระดับความชุ่มชื้นให้กับผิวพรรณ
เซรั่ม Vitamin C ช่วยเพิ่มระดับความชุ่มชื้นให้ผิวหน้า ทำให้ผิวกระจ่างสดใส มีน้ำมีนวล เปล่งประกายออร่าน่าสัมผัสเป็นอย่างมาก
4. เซรั่ม Vitamin C ช่วยลดผลกระทบของแสดงแดดที่มีต่อผิว
เมื่อออกไปนอกบ้านในต้นกลางวัน แน่นอนว่าแดดในเมืองไทยที่สุดแสนร้อนแรงก็พร้อมที่จะทำร้ายผิวได้ตลอดเวลา เซรั่ม Vitamin C มีคุณสมบัติที่น่าสนใจอย่างมากในการช่วยลดผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการสัมผัสของแสงแดดที่เกิดขึ้นได้เป็นอย่างดี
จากการศึกษาในหัวข้อเรื่อง “Use of topical ascorbic acid and its effects on photodamaged skin topography” ที่ได้รับการเผยแพร่ใน Nation Library of Medicine พบว่า การศึกษาผู้ป่วย 19 คน ที่มีอายุระหว่าง 36-72 ปี ที่มีผิวประเภท Fitzpatrick แบบ 1-3 และผิวหน้าได้รับความเสียหายจากแสงแดดเล็กน้อยถึงปานกลาง
หลังจากที่มีการใช้กรดแอสคอร์บิกติดต่อกันเป็นเวลา 3 เดือน ผลการศึกษาพบว่าริ้วรอย ผิวสัมผัสและโทนสีผิวที่ถูกทำลายจากแสงแดดได้รับการฟื้นฟูให้ดีขึ้นตามลำดับ มากถึง 68-74% เลยทีเดียว
5. เซรั่ม Vitamin C ช่วยลดอาการระคายเคืองที่เกิดขึ้นจากการสัมผัสสารคลอรีน
เซรั่ม Vitamin C มีคุณสมบัติในการช่วยปกป้องผิวและลดอาการระคายเคืองที่เกิดขึ้นจากการสัมผัสกับสารคลอรีน ซึ่งเป็นหนึ่งในสารที่พบได้บ่อยอย่างมากโดยเฉพาะในสระว่ายน้ำให้น้อยลง ดังนั้น ถ้าหากใครชื่นชอบการว่ายน้ำ การใช้เซรั่ม Vitamin C บำรุงผิวเป็นประจำก็จะช่วยดูแลผิวได้มากขึ้นอย่างไม่ทันรู้ตัว
6. เซรั่ม Vitamin C ช่วยซ่อมแซมและฟื้นฟูผิวในระดับเซลล์
เซรั่ม Vitamin C มีความน่ามหัศจรรย์อย่างมากในการซึมซาบลงไปถึงผิวชั้นลึก พร้อมกับฟื้นฟูสภาพของผิวพรรณถึงระดับเซลล์ เพิ่มความแข็งแรง สดใสให้กับผิวพรรณได้มากกว่าที่เคยเป็น
7. เซรั่ม Vitamin C ช่วยลดปัญหาการเกิดสิว
หลายคนอาจไม่เคยทราบมาก่อน เซรั่ม Vitamin C สามารถช่วยลดความมันของใบหน้าและขจัดน้ำมันที่อยู่บนชั้นผิวให้น้อยลง ซึ่งน้ำมันเหล่านี้เองเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้สิ่งสกปรกเกิดการเกาะติดอยู่กับผิวกระทั่งทำให้รูขุมขนอุดตันและกลายเป็นปัญหาสิวขึ้นมาในที่สุด
คอลลาเจน เซรั่ม วิตามินซีเข้มข้น คืออะไร!? มีประโยชน์กับผิวแตกต่างจาก เซรั่ม Vitamin C ทั่วไปหรือเปล่า!?
คอลลาเจนเซรั่มวิตามินซีเข้มข้น ที่จริงแล้วคือ “คอลลาเจน เซรั่ม” ที่มีองค์ประกอบจากส่วนผสมทางธรรมชาติอย่างเข้มข้นมากเป็นพิเศษ ด้วยการเพิ่มปริมาณของกรดไฮยาลูโรนิกมากขึ้นกว่าเดิม ทำให้สามารถที่จะช่วยเพิ่มระดับความยืดหยุ่น ความกระชับและต่อต้านริ้วรอยให้มากยิ่งขึ้นกว่าเดิม
ในขณะเดียวกัน คอลลาเจนเซรั่มวิตามินซีเข้มข้นก็จะเพิ่มปริมาณของส่วนผสมของวิตามินซี หรือวิตามินเข้าไปด้วย ส่งผลให้ผิวพรรณนุ่มเนียนมากขึ้นอย่างมากนั่นเอง
ไม่ค่อยมีเงินในกระเป๋ามากนัก เลือกใช้เซรั่มวิตามินซีจาก 7-11 ได้หรือเปล่า!?
หลายคนคิดว่ายิ่งเซรั่มวิตามินซีมีราคาสูงมากเท่าไหร่ ประสิทธิภาพในการบำรุงผิวพรรณก็จะมากขึ้นตามไปด้วย ที่จริงแล้วความเชื่อดังกล่าวก็ไม่ถึงกับไม่ถูกต้อง เพราะยิ่งเซรั่มวิตามินซีมีราคาสูงมากเท่าไหร่ส่วนผสมและวัตถุดิบก็จะยิ่งมีคุณภาพที่ดีมากขึ้นตามไปด้วยนั่นเอง
แต่ในขณะเดียวกันเซรั่มวิตามินซีที่วางจำหน่ายอยู่ใน 7-11 เอง ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่ดี เพราะผลิตภัณฑ์เหล่านี้ก็ได้มีการปรับปรุงสูตรขั้นมาเพื่อให้มีความเหมาะสมกับคนไทยมากที่สุดเช่นกัน เพียงแต่ควรรู้จักกับวิธีการเลือกซื้อเซรั่มวิตามินซีใน 7-11 ในสูตรที่เหมาะสมกับตัวเอง
สำหรับคนที่มีเงินทุนในกระเป๋าไม่มากนัก แต่อยากสวยขึ้นลองมาฟังวิธีการเลือกซื้อเซรั่มวิตามินซีจาก 7-11 หรือแหล่งจำหน่ายอื่นที่มีความน่าสนใจ อ้างอิงจากคำแนะนำของชาว Pantip ในหัวข้อถัดไปกันได้เลย
#รีวิว วิธีการเลือกเซรั่มวิตามินซีให้เหมาะกับตัวเองมากที่สุด ในสไตล์ของชาว Pantip
หลังจากที่ได้ทำการเก็บรวมรวมข้อมูลประสบการณ์และคำรีวิวจากชาว Pantip ที่มีต่อเซรั่มวิตามินซีพบว่า ชาว Pantip มีหลักการเลือกเซรั่มวิตามินซีที่มีความเหมาะสมกับตัวเองที่อยากทำการแบ่งปันให้กับคนที่กำลังมองหาเซรั่มวิตามินซีให้กับตัวเอง ดังต่อไปนี้
#รีวิว วิธีการเลือกเซรั่มวิตามินซีจากชาว Pantip โดยเลือกจากชนิดของเซรั่ม
สำหรับเซรั่มวิตามินซี ที่ถูกนำมาใช้ในการบำรุงผิวพรรณโดยพื้นฐานแล้วจะสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ประเภทหลัก ดังต่อไปนี้
1. ประเภทของเซรั่มวิตามินซี: Soluble Collagen
Soluble Collagen หรือที่รู้จักกันในชื่อของ “คอลลาเจนที่สามารถละลายในน้ำได้” เมื่อนำเซรั่มวิตามินซีประเภทนี้มาทาลงบนผิวพรรณ ก็จะช่วยเสริมสร้างโปรตีนหลักของผิวหนังให้มีความแข็งแรง มีความชุ่มชื้นมากขึ้นกว่าเดิม หาซื้อได้ง่าย แต่มีข้อด้อยอยู่ที่ประสิทธิภาพในการซึมซาบสู่ชั้นผิวจะค่อนข้างช้าเล็กน้อย
2. ประเภทของเซรั่มวิตามินซี : Hydrolyzed Collagen
Hydrolyzed Collagen เป็นคอลลาเจนแบบเอนไซม์ ที่มีคุณสมบัติที่เหมาะสมอย่างมากในการช่วยบำรุงผิวพรรณ ช่วยเพิ่มความแข็งแรง ลดเลือนริ้วรอย ยกกระชับผิวให้เต่งตึงและยังซึมซาบลงสู่ชั้นผิวลึกได้อย่างรวดเร็วมากที่สุด เนื้อสัมผัสเบาบาง ทำให้ทาได้อย่างง่ายดายอีกด้วย
#รีวิว วิธีการเลือกเซรั่มวิตามินซีจากชาว Pantip โดยเลือกจากประเภทของผิวพรรณ
เซรั่มวิตามินซี แต่ละยี่ห้อมีสูตรที่แตกต่างกันออกไป ทำให้บางสูตรมีส่วนผสมที่ไม่เหมาะกับการใช้กับผิวบางประเภท โดยสามารถสรุปวิธีการเลือกตามประเภทของผิวได้ดังต่อไปนี้
- คนที่มีผิวแห้ง ควรเลือกเซรั่มวิตามินซีสูตรที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นหรือเพิ่มความสดใสให้กับผิวพรรณมากขึ้นกว่าเดิม
- คนที่มีผิวมัน ควรเลือกเซรั่มวิตามินซีสูตรที่มีส่วนผสมของน้ำ หรือมีส่วนผสมของกรดซาลิไซลิกที่ช่วยในการสลายน้ำมันที่อยู่บนผิวพรรณ
- คนที่มีผิวผสม ควรเลือกเซรั่มวิตามินซีสูตรน้ำ ที่สามารถช่วยปรับสภาพผิวโดยรวมได้อย่างเหมาะสม
#รีวิว วิธีการเลือกเซรั่มวิตามินซีจากชาว Pantip โดยเลือกจากส่วนผสม
ส่วนผสมในสูตรของเซรั่มวิตามินซี เป็นอีกหนึ่งประเด็นที่ควรให้ความใส่ใจกันเป็นอย่างมาก เพราะส่วนผสมในแต่ละสูตรนั้นจะทำให้เกิดผลลัพธ์หลังจากการใช้งานที่น่าสนใจเป็นอย่างมากทีเดียว สำหรับส่วนผสมของเซรั่มวิตามินซีที่ชาว Pantip แนะนำให้เลือกใช้กันนั้น มีดังต่อไปนี้
1. เซรั่มวิตามินซีที่มีส่วนประกอบของสารต่อต้านอนุมูลอิสระ
สารต่อต้านอนุมูลอิสระ เช่น วิตามินซี มีคุณสมบัติที่น่าสนใจในการช่วยลดความเสื่อมสภาพของผิวพรรณที่เกิดขึ้นจากแสงแดด มลภาวะทางอากาศ ช่วยปรับสภาพของสีผิว ลดจำนวนของริ้วรอยที่เกิดขึ้น
2. เซรั่มวิตามินซีที่มีส่วนประกอบของกรดอัลฟ่าและเบต้าไฮดรอกซี
ส่วนประกอบทั้งสองนี้ สามารถช่วยลดความผิดที่ปกติของเม็ดสีของผิวพรรณ ทำให้จุดด่างดำลดน้อยลงกว่าเดิม เซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพแล้วก็จะถูกกำจัดได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ลดขนาดรูขุมขนที่กว้างให้เล็กลง ปรับสีผิวให้เรียบเนียนมากขึ้น ลดน้ำมันและสิ่งสกปรกที่สะสมบนผิวให้น้อยลง
อย่างไรก็ตาม ส่วนประกอบในสูตรของเซรั่มวิตามินซีทั้งสองนี้ไม่ค่อยเหมาะกับคนที่มีสภาพผิวที่บอกบาง เพราะอาจทำให้เกิดอาการระคายเคืองได้เนื่องจากสารเหล่านี้มีฤทธิ์เป็นกรดนั่นเอง
3. เซรั่มวิตามินซีที่มีส่วนผสมของวิตามินเอ
วิตามินเอ หรือเรตินอล เป็นส่วนผสมยอดนิยมในผลิตภัณฑ์ดูแลผิวพรรณหลากหลายชนิด ด้วยคุณสมบัติในการช่วยรักษาสภาพของเซลล์ที่เสียหายจากการสัมผัสกับแสงแดด นอกจากนี้ยังช่วยฟื้นฟูเซลล์ที่รับความเสียหายให้สามารถกลับมาทำงานได้ตามปกติและชะลอการสร้างเม็ดสีผิวเมื่อเผชิญกับแสงแดด ลดปัญหาผิวคล้ำให้น้อยลงได้อีกด้วย
4. เซรั่มวิตามินซีที่มีส่วนผสมของกรดโอเมก้า-3
กรดโอเมก้า-3 มีคุณสมบัติที่น่าสนใจอย่างมากในการช่วยรักษาสุขภาพของผนังเซลล์ให้มีความแข็งแรงมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม ทำให้น้ำสามารถซึมผ่านเข้าสู่เซลล์ได้ในปริมาณที่เพียงพอกับความต้องการและขจัดของเสียที่เกิดขึ้นในเซลล์ผิวได้อย่าง่ายดายมากขึ้น ส่งผลให้ผิวดูมีสุขภาพที่ดีมากขึ้น มีความชุ่มชื้น ไม่แห้งหยาบกร้าน ช่วยรักษาสิว ลดเลือนริ้วรอยและเพิ่มความยืดหยุ่นกับผิวที่มากขึ้น
5. เซรั่มวิตามินซีที่มีส่วนผสมของไฮยาลูโรนิก
ไฮยาลูโรนิก เป็นสารที่ร่างกายสามารถสกัดขึ้นมาได้เองตามธรรมชาติ เป็นที่รู้จักกันดีในฐานะของมอยเจอร์ไรเซอร์ตามธรรมชาติที่มีประสิทธิภาพสูงอย่างมาก หลังจากนั้นจะค่อย ๆ หายไปเองตามอายุที่มากขึ้น ทำให้การเลือกใช้เซรั่มวิตามินซีที่มีไฮยาลูโรนิกเป็นส่วนผสมจะสามารถช่วยให้ผิวมีความชุ่มชื้น เหมือนกับผิวของวัยรุ่น
6. เซรั่มวิตามินซีที่มีส่วนผสมของเปปไทด์
เปปไทด์ คือ กรดอะมิโนที่เป็นส่วนหนึ่งของโปรตีน Acetyl hexapeptide, palmitoyl pentapeptide และ palmitoyl oligopeptide เมื่อเปปไทด์ถูกดูดซับเข้าสู่ชั้นผิวหนัง ก็จะทำหน้าที่ในการช่วยลดเลือนริ้วรอยให้น้อยลง ด้วยการกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนและปกป้องผิวจากการถูกทำลายโดยรังสี UV จากดวงอาทิตย์ที่แรงกล้าในตอนกลางวัน
ข้อควรระมัดระวังในการเลือกเซรั่ม Vitamin C โดยอ้างอิงรีวิวจากอินเทอร์เน็ต หรือชาว Pantip!
การเลือกเซรั่ม Vitamin C สักชิ้นมาใช้งานนั้น ขอแนะนำว่าควรตระหนักเอาไว้เสมอว่าสภาพผิวของคนเราทุกคนไม่เหมือนกัน ดังนั้น ต่อให้รีวิวแนะนำผลิตภัณฑ์เหล่านั้นจะเป็นบุคคลที่มีความน่าเชื่อถือหรือโด่งดังมากขนาดไหนใน Pantip ก็ต้องเข้าใจว่าเซรั่ม Vitamin C “ทุกสูตร ไม่ได้เหมาะกับทุกคน”
เซรั่ม Vitamin C ที่ผู้รีวิวหยิบยกมาพูดถึงนั้น อาจจะสามารถใช้ได้ผลจริงกับผู้รีวิว แต่มันก็อาจใช้ไม่ได้ผลกับตัวคุณหรือให้ผลลัพธ์ที่เลวร้ายมากขึ้นกว่าเดิม เพราะเป็นการเลือกใช้เซรั่ม Vitamin C โดยอ้างอิงจากคำรีวิว โดยที่ไม่ได้เลือกสูตรที่เหมาะกับตัวเอง
#รีวิว 5 เซรั่มวิตามินซี ที่มีประสิทธิภาพน่าสนใจมากที่สุดในปี 2021
หลังจากที่ได้ทราบเกี่ยวกับหลักการและวิธีการเลือกเซรั่มวิตามินซีที่น่าสนใจกันไปแล้วในหัวข้อข้างต้น คราวนี้ลองมาทำความรู้จักกับเซรั่มวิตามินซีที่น่าสนใจที่สุดในปี 2021 โดยเรียงลำดับจากเซรั่มวิตามินซีที่น่าสนใจมากที่สุดกันดีกว่า มีผลิตภัณฑ์ใดที่เหมาะกับคุณผู้อ่านมากที่สุดกัน
เซรั่มวิตามินซีที่น่าสนใจอยากรีวิว อันดับที่ #1 Vita C Brightening Ampoule
จุดเด่นของเซรั่มวิตามินซี Vita C Brightening Ampoule
- เซรั่มวิตามินซี Vita C Brightening Ampoule ปกป้องและช่วยลดเลือนริ้วรอย ฝ้า กระ ผิวหมองคล้ำและจุดด่างดำ
- เซรั่มวิตามินซี Vita C Brightening Ampoule ปรับสภาพสีผิวให้ขาว สว่างกระจ่างใส
- เซรั่มวิตามินซี Vita C Brightening Ampoule ลดเลือนรอยแผลเป็นจากสิว
- เซรั่มวิตามินซี Vita C Brightening Ampoule สูตรพิเศษที่เน้นสารสกัดในการดูแลผิวพรรณอย่างอ่อนโยน
- เซรั่มวิตามินซี Vita C Brightening Ampoule เพิ่มส่วนผสมของไวท์เทนนิ่งเพื่อช่วยปกป้องผิวจากแสงแดดมากถึง 3 เท่า
เนื้อสัมผัส |
เนื้อเซรั่มบางเบา ไม่เหนียวเหนอะหนะ |
สภาพผิวที่เหมาะ |
ทุกสภาพผิว |
ปริมาณ |
30 ml. |
ราคา (โดยประมาณ) |
1,690 บาท |
เซรั่มวิตามินซีที่น่าสนใจอยากรีวิว อันดับที่ #2 ครีมเซรั่มวิตามินซี รพ.ยันฮี
จุดเด่นของเซรั่มวิตามินซี ครีมเซรั่มวิตามินซี รพ.ยันฮี
- ครีมเซรั่มวิตามินซี รพ.ยันฮี ช่วยทำให้ผิวสวยมีออร่า
- ครีมเซรั่มวิตามินซี รพ.ยันฮี ช่วยบำรุงผิวให้มีความกระจ่างใสมากขึ้น
- ครีมเซรั่มวิตามินซี รพ.ยันฮี ช่วยลดเลือนจุดด่างดำ รอยหมองคล้ำสะสมบนผิว
- ครีมเซรั่มวิตามินซี รพ.ยันฮี ช่วยทำให้ผิวนุ่มชุ่มชื้นและความอิ่มเอิบ
- ครีมเซรั่มวิตามินซี รพ.ยันฮี ช่วยทำให้สีผิวดูเรียบเนียนสม่ำเสมอมากขึ้นกว่าเดิม
เนื้อสัมผัส |
เนื้อเซรั่มสีใส ไม่มีกลิ่น ไม่เหนียวเหนอะหนะ |
สภาพผิวที่เหมาะ |
ผิวหมองคล้ำ |
ปริมาณ |
20 ml. |
ราคา (โดยประมาณ) |
129 บาท |
เซรั่มวิตามินซีที่น่าสนใจอยากรีวิว อันดับที่ #3 Natural Power C Miracle Advanced Brightening Serum (Oriental Princess)
จุดเด่นของเซรั่มวิตามินซี Natural Power C Miracle Advanced Brightening Serum (Oriental Princess)
- เซรั่มวิตามินซี Oriental Princess สูตรเข้มข้นที่มีอนุพันธ์ของวิตามินบริสุทธิ์แท้ 100%
- เซรั่มวิตามินซี Oriental Princess ช่วยปรับสภาพผิวพรรณให้กระจ่างใสขึ้นอย่างรวดเร็ว
- เซรั่มวิตามินซี Oriental Princess ช่วยลดเลือนจุดด่างดำ ปรับสภาพโทนสีผิวให้ดียิ่งขึ้น
- เซรั่มวิตามินซี Oriental Princess ไม่ทำให้เกิดอาการระคายเคืองต่อผิว
- เซรั่มวิตามินซี Oriental Princess ช่วยป้องกันการเกิดปัญหาสิวขึ้นในอนาคต
- เซรั่มวิตามินซี Oriental Princess ช่วยทำให้ผิวพรรณมีความเรียบเนียน กระจ่างใสมากขึ้น
เนื้อสัมผัส |
เนื้อเซรั่มใส กลิ่นส้ม |
สภาพผิวที่เหมาะ |
ทุกสภาพผิว |
ปริมาณ |
30 ml. |
ราคา (โดยประมาณ) |
895 บาท |
เซรั่มวิตามินซีที่น่าสนใจอยากรีวิว อันดับที่ #4 AquaPlus Enriched-C Serum 15 ml.
จุดเด่นของเซรั่มวิตามินซี AquaPlus Enriched-C Serum 15 ml.
- เซรั่มวิตามินซี AquaPlus Enriched-C Serum มีปริมาณวิตามินซีเข้มข้นถึง 15 มิลลิกรัม
- เซรั่มวิตามินซี AquaPlus Enriched-C Serum ช่วยฟื้นฟูยกกระชับผิว เพิ่มความกระจ่างสดใส
- เซรั่มวิตามินซี AquaPlus Enriched-C Serum ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวพรรณยาวนาน 24 ชั่วโมง
- เซรั่มวิตามินซี AquaPlus Enriched-C Serum เนื้อเซรั่มสามารถซึมซาบสู่ชั้นผิวได้ในทันที
เนื้อสัมผัส |
เซรั่มเนื้อใส |
สภาพผิวที่เหมาะ |
ทุกสภาพผิว |
ปริมาณ |
15 ml. |
ราคา (โดยประมาณ) |
1,710 บาท |
เซรั่มวิตามินซีที่น่าสนใจอยากรีวิว อันดับที่ #5 Powerful-Strength Line-Reducing Concentrate (Kiehl’s)
จุดเด่นของเซรั่มวิตามินซี Powerful-Strength Line-Reducing Concentrate (Kiehl’s)
- เซรั่มวิตามินซี Powerful-Strength Line-Reducing Concentrate (Kiehl’s) ผ่านการทดสอบทางคลินิก ในการช่วยลดเลือนริ้วรอยและช่วยทำให้ผิวพรรณดูเปล่งปลั่งมากยิ่งขึ้น
- เซรั่มวิตามินซี Powerful-Strength Line-Reducing Concentrate (Kiehl’s) ช่วยผลัดเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพตามธรรมชาติให้ดียิ่งขึ้น
- เซรั่มวิตามินซี Powerful-Strength Line-Reducing Concentrate (Kiehl’s) ช่วยป้องกันการเกิดอนุมูลอิสระในชั้นผิว
- เซรั่มวิตามินซี Powerful-Strength Line-Reducing Concentrate (Kiehl’s) มีปริมาณความเข้มข้นของวิตามินซีมากถึง 12.5%
เนื้อสัมผัส |
เซรั่นเนื้อใส บางเบา ไม่ทิ้งความมันบนผิวและมีกลิ่นหอมสดชื่น |
สภาพผิวที่เหมาะ |
ทุกสภาพผิว |
ปริมาณ |
50 ml. |
ราคา (โดยประมาณ) |
3,200 บาท |
5 เคล็ดลับใช้เซรั่มวิตามินซีอย่างไรให้เกิดประสิทธิภาพในการบำรุงผิวพรรณมากที่สุด
เพื่อให้ผิวพรรณได้รับการบำรุง ดูแลรักษาอย่างมีประสิทธิภาพและสามารถเห็นผลลัพธ์ของผิวที่สวยงามเปล่งประกายอย่างรวดเร็วมากที่สุด ขอแนะนำว่าควรทำตามขั้นตอนวิธีการใช้เซรั่ม ดังต่อไปนี้
1. วิธีใช้เซรั่มวิตามินซีบำรุงผิวอย่างถูกต้อง: ล้างหน้าด้วยน้ำอุ่น
เพื่อเป็นการกระตุ้นให้รูขุมขนบนใบหน้าเกิดการคลายตัวเปิดออก ทำให้การชำระล้างคราบสิ่งสกปรกที่อยู่ในรูขุมขนและใบหน้าเป็นไปได้อย่างง่ายดายมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม หรือถ้าหากใครอยากที่จะเพิ่มความสะอาดให้ล้ำลึกมากยิ่งขึ้น อาจใช้ แผ่นมาส์กหน้า Sleeping Mask ช่วยทำความสะอาดอีกครั้งหนึ่งหลังจากทำการล้างหน้าด้วยน้ำอุ่นก็ได้เช่นกัน
2. วิธีใช้เซรั่มวิตามินซีบำรุงผิวอย่างถูกต้อง: ใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวพรรณ
ทำความสะอาดผิวหน้าด้วยผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่เหมาะสมกับสภาพผิวของตัวเองให้สะอาดหมดจด เช่น โฟมล้างหน้าลดสิว เป็นต้น เพื่อเป็นการช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของการใช้เซรั่มวิตามินซีให้มากยิ่งขึ้นกว่าเดิม
3. วิธีใช้เซรั่มวิตามินซีบำรุงผิวอย่างถูกต้อง: ใช้เนื้อเซรั่มในปริมาณที่เหมาะสม
สำหรับปริมาณของเนื้อเซรั่มที่เหมาะสมสำหรับใช้ในการบำรุงผิวพรรณคือ ปริมาณประมาณเท่ากับหนึ่งเหรียญบาท ซึ่งถือว่าเป็นปริมาณที่ไม่มาก-ไม่น้อยจนเกินไป และควรทำการวอร์มเนื้อเซรั่มวิตามินซีบนฝ่ามือเล็กน้อยเพื่อให้เนื้อครีมกับส่วนผสมมีการแตกตัว เพิ่มประสิทธิภาพในการบำรุงก่อนทาลงบนผิวพรรณ
4. วิธีใช้เซรั่มวิตามินซีบำรุงผิวอย่างถูกต้อง: นวดเนื้อเซรั่มอย่างแผ่วเบา
ทำการทาแตะเนื้อเซรั่มวิตามินซีลงบนผิวหน้าบริเวณหน้าฝาก สองแก้ม จมูก หางคิ้วและคาง จากนั้นให้นวดเนื้อเซรั่มอย่างเบามือในลักษณะวงกลมให้ทั่วใบหน้าไปจนจรดลำคอเป็นเวลานานประมาณหนึ่งนาที หากต้องการบำรุงผิวในขั้นตอนต่อไปขอแนะนำว่าควรทิ้งระยะหางประมาณ 3 นาที เพื่อให้เนื้อเซรั่มวิตามินซีซึมซาบลงสู่ผิวชั้นลึกเป็นที่เรียบร้อยเสียก่อน
5. วิธีใช้เซรั่มวิตามินซีบำรุงผิวอย่างถูกต้อง: ควรใช้เป็นประจำทั้งเช้า-เย็น
การใช้เซรั่มวิตามินซี ควรใช้อย่างสม่ำเสมอต่อเนื่องเป็นประจำในตอนเช้า-ตอนเย็น เพื่อให้เซรั่มวิตามินซีมีการบำรุงผิวพรรณอย่างต่อเนื่องและสามารถเห็นผลลัพธ์ได้อย่างรวดเร็วมากที่สุดนั่นเอง
วิธีการทําเซรั่มวิตามินซีใช้ด้วยตัวเอง
สำหรับคนที่คิดว่าเซรั่มวิตามินซีที่วางจำหน่ายอยู่ในท้องตลาดอาจจะมีราคาที่ค่อนข้างสูงไปสักหน่อย จึงอยากที่จะประหยัดเงินในกระเป๋าก็สามารถ D.I.Y. ทำเซรั่มวิตามินซี ขึ้นมาใช้งานด้วยตัวเองได้เช่นกัน โดยผู้เขียนมีสูตรวิธีการทำเซรั่มวิตามินซีใช้เองอย่างง่ายดายมาฝากกันถึงสองสูตร ส่วนจะมีส่วนผสมอะไรกันบ้างนั้น มาติดตามอ่านกันเลย
1. สูตรวิธีการทำเซรั่มวิตามินซีแบบง่ายดายด้วยตัวเอง : วิตามินซี + ว่านหางจระเข้+น้ำมันมะพร้าว
ส่วนผสมของเซรั่มวิตามินซีทำเอง
- วิตามินซีชนิดเม็ด ขนาด 500 มิลลิกรัม
- เจลว่านหางจระเข้ 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมันมะพร้าว 1 ช้อนชา
- วิตามินอีชนิดน้ำมัน 1 แคปซูล
ขั้นตอนในการทำเซรั่มวิตามินซีด้วยตัวเอง
ทำการบดวิตามินซีแบบเม็ดให้กลายเป็นผงละเอียด จากนั้นผสมเข้ากับน้ำมันมะพร้าวให้ละลายเป็นเนื้อเดียวกัน หลังจากนั้นค่อยทำการเติมส่วนผสมที่เหลือทั้งหมดลงไปคนให้กลายเป็นเนื้อเดียวกันจนกระทั่งกลายเป็นเนื้อเซรั่มเหลว เมื่อได้ที่แล้วให้เก็บใส่ภาชนะปิดสนิทและเก็บรักษาเอาไว้ในตู้เย็น
2. สูตรวิธีการทำเซรั่มวิตามินซีแบบง่ายดายด้วยตัวเอง :
ส่วนผสมของเซรั่มวิตามินซีทำเอง
- L-Ascorbic acid powder (หาซื้อได้ที่ร้านขายอาหารเสริมทั่วไป) จำนวน ¼ ช้อนชา
- น้ำกลั่น
- เบกกิ้งโซดา
- กระดาษทดสอบค่า pH
ขั้นตอนในการทำเซรั่มวิตามินซีด้วยตัวเอง
เทน้ำกลั่นออกจากขวดให้เหลือประมาณครึ่งหนึ่ง จากนั้นเติม L-Ascorbic acid powder ลงไปในขวดน้ำกลั่น ปิดฝาแล้วทำการเขย่าจนกระทั่งผงละลายจนหมด แล้วค่อยทำการเติมน้ำกลั่นส่วนที่เหลือเข้าไปใหม่อีกครั้ง แล้วเขย่าอีกครั้งจนเข้ากัน
น้ำกลั่นมาหยดลงบนกระดาษทดสอบค่า pH โดยให้ค่าอยู่ที่ประมาณ 3.5 ถ้าหากค่า pH ยังไม่อยู่ในระดับที่ต้องการให้ใส่เบกกิ้งโซดาใส่ลงในน้ำทีละน้อยและเขย่าอีกครั้ง หลังจากนั้นทำซ้ำไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งได้ค่าตามที่ต้องการจึงค่อยทำเก็บส่วนผสมของเซรั่มเอาไว้ในขวดปิดทึบป้องกันแสงและเก็บเอาไว้ในสถานที่ ที่แสงแดดส่องไม่ถึง
ข้อดีของการทำเซรั่มวิตามินซีใช้ด้วยตัวเอง
สำหรับการทำเซรั่มวิตามินซีใช้ด้วยตัวเอง มีข้อดีหลายประการที่น่าสนใจ ดังต่อไปนี้
- การทำเซรั่มวิตามินซีใช้ด้วยตัวเอง วัตถุดิบทั้งหมดสามารถหาซื้อได้ง่ายและมีราคาไม่แพง
- การทำเซรั่มวิตามินซีใช้ด้วยตัวเอง ใช้เวลาทำไม่นานเพียงประมาณ 5 นาที โดยไม่จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์พิเศษ
- การทำเซรั่มวิตามินซีใช้ด้วยตัวเอง สามารถปรับปริมาณของวิตามินซีได้ด้วยตัวเอง
- การทำเซรั่มวิตามินซี ราคาประหยัดจนสามารถนำไปใช้ในการบำรุงผิวพรรณส่วนอื่นของร่างกายนอกเหนือจากใบหน้าได้ โดยที่ไม่ต้องรู้สึกเสียดายเซรั่มวิตามินซีราคาแพง
ข้อควรระมัดระวังในการทำเซรั่มวิตามินซีใช้ด้วยตัวเอง
ถึงแม้ว่าวิธีการทำเซรั่มวิตามินซีใช้ด้วยตัวเองจะมีข้อดีหลากหลายประการ แต่ในขณะเดียวกันก็มีข้อเสียบางประการที่ควรทราบเพื่อประกอบการตัดสินใจว่าควรทำเซรั่มวิตามินซีใช้เองดีหรือเปล่า!? ดังต่อไปนี้
- การทำเซรั่มวิตามินซีใช้เอง ต้องระมัดระวังความเป็นกรดมากเป็นพิเศษ เพราะหากความเข้มข้นของวิตามินซีสูงมากจนเกินไปก็อาจทำให้ผิวพรรณถูกเผาไหม้หรือระคายเคืองได้เช่นกัน
การทำเซรั่มวิตามินซีใช้ด้วยตัวเอง เนื่องจากไม่มีส่วนผสมของวัตถุกันเสีย ทำให้อายุการเก็บรักษาเอาไว้ใช้งานจะค่อนข้างสั้นราวประมาณ 2 สัปดาห์ เท่านั้น
บทสรุปส่งท้าย : วิตามินซีและเซรั่ม Vitamin C เลือกใช้งานให้ถูก รับรองช่วยบำรุงสุขภาพและความงามได้อย่างที่ใจต้องการแน่นอน!
หลังจากที่ได้รับทราบข้อมูลที่น่าสนใจทั้งวิตามินซีที่ต้องทานเข้าสู่ร่างกายเพื่อนำไปใช้ในการบำรุงสุขภาพ และเซรั่มวิตามินซี [Vitamin C] สำหรับใช้ในการทาเพื่อบำรุงผิวพรรณภายนอกแล้ว
หวังว่าบทความชิ้นนี้ ก็คงจะช่วยให้หลายคนก็คงจะเริ่มมองเห็นรูปแบบการนำวิตามินซีไปใช้ประโยชน์กันแบบเต็มประสิทธิภาพ และสลายม่านหมอกแห่งความสงสัยในเรื่องของการใช้งานได้มากยิ่งขึ้นกว่าที่ผ่านมากันอย่างแน่นอน…
เรื่องน่ารู้อื่นๆ
สครับหน้า ตัวกู้ผิวหน้า ขัดนิด สครับอีกหน่อย ช่วยอะไรได้บ้างมารีวิวดูกัน
อ่านเพิ่มเติมม.ค.
The Top Serect ที่สาวๆ ทุกคน ต้องอยากจะรู้ อ้ายคุณ “น้ำตบ” คืออะไร ? เค้าเป็นใคร ? มาจากไหน ? อยู่ๆ ทำไมถึงเป็นแรร์ไอเทมของผิวหน้า
อ่านเพิ่มเติมเม.ย.
สกินแคร์เกาหลี ตัวช่วยผิวสวย หน้าใส ที่นิยมแบบไอดอลเกาหลีไม่ใช่เรื่องยาก!
อ่านเพิ่มเติมพ.ย.
การเกิดสิวมีสาเหตุหลักมาจากอะไร ที่เราควรต้องรู้ จะได้แก้ปัญหาและป้องกันการเกิดสิวได้ตรงจุด
อ่านเพิ่มเติมมิ.ย.
สิวคืออะไร สาเหตุและอาการของสิว มีอะไรบ้างมาทำความรู้จักกันเถอะ
อ่านเพิ่มเติมมิ.ย.
การให้ผิวหน้าคุณแลดูสดใสอ่อนเยาว์ด้วยเซรั่มบำรุงผิว เผยผิวสวยอย่างเป็นธรรมชาติโดยไม่ต้องปกปิดอีกต่อไป
อ่านเพิ่มเติมพ.ค.
สาเหตุของการเกิดสิว และสิวเกิดจากอะไรบ้าง มาดูกันได้เลย
อ่านเพิ่มเติมพ.ย.
น้ำตบตัวช่วย อะไรก็พร้อม ถ้าผิวพร้อมให้ผิวหน้าขาวกระจางใส ผิวหน้าเด้ง และกระชับรูขุมขน
อ่านเพิ่มเติมธ.ค.
ปกป้องผิวหน้าจากแสงสีฟ้าจากโทรศัพท์ ทำผิวหน้าหมองคล้ำ ตัวการทำหน้าแก่ก่อนวัย ด้วยการทาครีมกันแดด
อ่านเพิ่มเติมธ.ค.
ถ้าอยากหน้าใส ไม่เป็นสิว อย่าหาทำ การไม่ใช้คลีนซิ่งลบเครื่องสำอางทุกครั้งหลังการแต่งหน้า ความสยองจะตามมาแน่ๆ
อ่านเพิ่มเติมพ.ย.
วิธีใช้ประโยชน์ของการใช้ทองคำบำรุงผิวหน้า แบ่งออกได้ใหญ่ๆ 10 วิธีทำสม่ำเสมอเพื่อความงาม ดุจคลีโอพัตรา
อ่านเพิ่มเติมเม.ย.
[เคล็ดลับ] มาตำวิธีป้องกันอันตรายจากแสงแดดก่อนสายเกินไป
อ่านเพิ่มเติมก.ย.
มาทำความรู้จักกับเรตินอลกันเถอะ เรตินอลคืออะไร เรตินอลช่วยเรื่องอะไร มาดูกัน!!
อ่านเพิ่มเติมต.ค.
How to ขั้นตอนการดูแลผิวขาวใสให้ปังปุริเย่โดยวิธีธรรมชาติ
อ่านเพิ่มเติมก.พ.
เซรั่มหน้าใส หรือหน้าขาว จากเกาหลี คืออะไร ต้องถูกและดี มาตำกันค่ะ เพราะเรานั้นบอกหมดเปลือกทุกๆอย่าง
อ่านเพิ่มเติมพ.ค.
เครื่องสําอางเกาหลี แบรนด์ดังมาใหม่ที่สุดแห่งปี 2022 สำหรับผู้หญิงที่ถือคติ “ผู้หญิงอย่าหยุดสวย” ต้องช้อป กันค่ะ
อ่านเพิ่มเติมพ.ย.
5 ประโยชน์ของวิตามินซี ที่เป็นส่วนผสมหลักอยู่ในสกินแคร์
อ่านเพิ่มเติมพ.ย.
8 เทคนิคง่ายๆ ที่วิธีทำให้รูขุมขนหน้าเล็กลง เผยผิวหน้าเนียนสวยเป๊ะ
อ่านเพิ่มเติมมี.ค.
มาดูความแตกต่างระหว่าง เอสเซนส์ กับ เซรั่มบำรุงผิวหน้า ว่าต่างกันอย่างไร ?
อ่านเพิ่มเติมส.ค.
วิธีการทำความสะอาดผิวหน้า ให้ดูเหมือนจะเป็นเรื่องพื้นๆง่ายๆ
อ่านเพิ่มเติมต.ค.