[เจาะลึก] วิตามินซีกับเซรั่ม Vitamin C [วิตซี]เคล็ดลับความงามที่เปล่งปลั่งทั้งภายในและภายนอก

เซรั่มวิตซี

สารบัญ

add line
facebook cliv thailand

สามารถดูสินค้าจริงได้ที่ Euphoria Thailand ทุกสาขา

รวมความรู้เกี่ยวกับ [วิตามินซี] กับ #เซรั่ม Vitamin C ประโยชน์แห่งความงามและสุขภาพ ช่วยให้ผิวขาว สว่าง กระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติ

เชื่อว่าชื่อของ “วิตามินซี” (Vitamin C) คงเป็นสิ่งที่คุ้นหูของทุกคน เพราะมันเป็นหนึ่งในสารอาหารขั้นพื้นฐานที่ทุกคนต่างต้องเคยทำความรู้จักในชั้นเรียน และยังได้รับความนิยมกันเป็นอย่างมากในฐานะอาหารเสริม หรือส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์เสริมความงามมากมายในปัจจุบัน

            ถึงแม้ว่าทุกคนจะรู้จักวิตามินซี แต่เชื่อว่าคงจะมีน้อยคนที่ได้มีโอกาสทำการศึกษาเกี่ยวกับวิตามินซีอย่างถ่องแท้ ดังนั้น เพื่อเป็นการช่วยให้คุณผู้อ่านที่กำลังค้นคว้า หาข้อมูลเกี่ยวกับวิตามินซีอยู่ บทความชิ้นนี้จึงได้ทำการรวบรวมทุกเรื่องราวที่น่ารู้และควรรู้! เกี่ยวกับวิตามินซี และเซรั่มวิตามินซีมาฝากกันแบบครบถ้วน จนไม่จำเป็นจะต้องไปหาข้อมูลเพิ่มเติมจากที่ไหนอีกเลย

            ส่วนข้อมูลเกี่ยวกับวิตามินซีและเซรั่มวิตามินซี หรือเซรั่มวิตซี ที่กล่าวถึงจะมีอะไรที่น่าสนใจกันบ้าง อย่ามัวเสียเวลาอารัมภาบทอยู่ดีกว่า ไปติดตามข้อมูลกันเลย…

วิตามินซี (Vitamin C) คืออะไร!?

วิตามินซี (Vitamin C) มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า (Ascorbic Acid) เป็นวิตามินที่มีความสำคัญอย่างมากต่อร่างกายของมนุษย์ โดยเฉพาะในส่วนของภูมิคุ้มกัน

 แต่ที่รู้จักกันเป็นอย่างดีที่สุดคือคุณสมบัติในการช่วยบำรุงผิวพรรณจากสารต่อต้านอนุมูลอิสระที่เกิดขึ้นจากกระบวนการสันดาปของร่างกายและมลพิษต่าง ๆ ที่ทำให้เซลล์ภายในร่างกายเกิดการเสื่อมสภาพ ช่วยชะลอริ้วรอย ความแก่ชรา สิ่งเหล่านี้ช่วยฟื้นฟูให้ผิวพรรณกลับมามีสุขภาพที่ดีได้มากยิ่งขึ้นกว่าเดิม

ถึงแม้ว่าวิตามินซี (Vitamin C) จะมีประโยชน์อย่างมาก แต่เป็นที่น่าเสียดายว่าร่างกายของมนุษย์ไม่สามารถสร้างวิตามินซีขึ้นมาได้เอง ดังนั้น จึงจำเป็นที่จะต้องได้รับวิตามินซีจากการทานอาหารเช่น ผัก ผลไม้ เป็นต้น เข้ามาทดแทนวิตามินซีที่ถูกนำไปใช้ในร่างกายในปริมาณที่เพียงพออย่างสม่ำเสมอ

5 ประโยชน์ที่สำคัญของวิตามินซี

วิตามินซี เป็นสารอาหารที่สำคัญมากมายต่อร่างกายของมนุษย์ แต่โดยทั่วไปแล้วประโยชน์ของวิตามินซี สามารถสรุปแบ่งออกได้เป็น 5 หัวข้อหลัก ดังต่อไปนี้

อ่านเพิ่มเติมเรื่อง : 5 ประโยชน์ของวิตามินซี ที่เป็นส่วนผสมหลักอยู่ในสกินแคร์

1. ประโยชน์ของวิตามินซี: ช่วยทำให้ผิวสวยกระจ่างสดใสมากขึ้นกว่าเดิม

            วิตามินซี สามารถช่วยในการยับยั้งเอนไซม์ไทโรสิเนส (Tyrosinase enzyme) ที่ทำให้เกิดกระบวนการสร้างเม็ดสีเมลานิน เมื่อเม็ดสีผิวมีปริมาณน้อยลงก็จะทำให้ผิวพรรณมีความกระจ่างใส ในขณะเดียวกันจุดด่างดำก็จะลดน้อยลงกว่าเดิม

2. ประโยชน์ของวิตามินซี: สารต่อต้านอนุมูลอิสระชั้นยอด

            วิตามินซี มีคุณสมบัติในการช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ (Anti-oxidant) ทำให้ลดความเสียหายในชั้นผิวที่ถูกทำลายจากกระบวนการเกิดอนุมูลอิสระได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะอนุมูลอิสระที่เกิดขึ้นจากรังสี UV เหมาะอย่างมากสำหรับคนที่จำเป็นต้องออกไปนอกอาคารในตอนกลางวันบ่อยครั้ง

3. ประโยชน์ของวิตามินซี: กระตุ้นเพิ่มการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิว

            วิตามินซี ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลาเจนในชั้นผิวหนังแท้ให้มากขึ้น ทำให้ผิวมีความเต่งตึง ลดความหย่อนคล้อย ริ้วรอยที่เกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ

4. ประโยชน์ของวิตามินซี: เพิ่มระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น

            การทานวิตามินซีอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกวัน ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายให้มีความแข็งแรงมากขึ้น ช่วยลดความรุนแรงจากหวัด ลดอาการแพ้จากสารที่กระตุ้นให้เกิดอาการภูมิแพ้ รวมไปถึงการช่วยลดโอกาสติดเชื้อไวรัสและเชื้อแบคทีเรีย ช่วยกระตุ้นการทำงานของเม็ดเลือดขาว

5. ประโยชน์ของวิตามินซี: ช่วยลดปริมาณคอเลสเตอรอลในเลือด

            นอกจากวิตามินซีจะช่วยลดปริมาณของคอเลสเตอรอลในเลือดให้น้อยลงแล้ว ยังช่วยลดการเกิดปัญหาการอุดตันในหลอดเลือดดำได้ด้วยเช่นกัน

ประโยชน์ด้านสุขภาพอื่น ๆ ที่น่าสนใจของวิตามินซี

            นอกจากประโยชน์ของวิตามินซีที่ได้ทำการแนะนำไปแล้วในตอนต้น ยังมีประโยชน์ในด้านอื่น ๆ ที่ควรทราบอีก ดังต่อไปนี้

  • วิตามินซี ช่วยฟื้นฟูร่างกายหลังจากการออกกำลังกาย
  • วิตามินซี ช่วยลดอาการอักเสบของกล้ามเนื้อ
  • วิตามินซี ช่วยให้การดูดซึมแร่ธาตุบางชนิดให้ดียิ่งขึ้น เช่น ธาตุเหล็ก เป็นต้น เป็นการช่วยป้องกันร่างกายไม่ให้เกิดสภาวะขาดธาตุเหล็ก
  • วิตามินซี ช่วยย่นระยะเวลาทำให้บาดแผลหายเร็วมากขึ้น
  • วิตามินซี ช่วยทำให้สุขภาพของผู้หญิงโดยรวมดีขึ้นกว่าเดิม
  • วิตามินซี อาจช่วยลดปัญหาความดันโลหิตสูงให้น้อยลง
  • วิตามินซี อาจช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคเรื้อรัง จากคุณสมบัติสารต่อต้านอนุมูลอิสระตามธรรมชาติ
  • วิตามินซี อาจช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจ
  • วิตามินซี อาจช่วยลดระดับกรดยูริกในเลือดและช่วยป้องกันโรคเกาต์
  • วิตามินซี ช่วยปกป้องความจำและการใช้ความคิดยามเมื่ออายุมากขึ้น
  • วิตามินซี ช่วยลดความเครียดให้น้อยลง
  • วิตามินซี ช่วยลดโอกาสเกิดโรคหลอดเลือดในสมอง
  • วิตามินซี ช่วยปกป้องดวงตาจากโรคประสาทตาเสื่อม
  • วิตามินซี ช่วยบรรเทาอาการโรคเบาหวาน ลดความรุนแรงให้น้อยลง
  • วิตามินซี ช่วยลดอาการเมารถให้น้อยลง

วิตามินซีกับประโยชน์ต่อเด็กที่มักถูกมองข้ามอย่างน่าเสียดาย!

            ทุกคนทราบกันดีกว่าวิตามินซีนั้นมีประโยชน์ต่อสุขภาพเป็นอย่างมาก แต่ส่วนใหญ่มักจะให้ความสนใจไปที่ผู้ใหญ่และผู้ป่วยที่มีภาวะขาดวิตามินซีเท่านั้น แต่ที่จริงแล้ววิตามินซี ยังมีประโยชน์กับการเจริญเติบโตของเด็ก ๆ เป็นอย่างมากเลยทีเดียว เพราะวิตามินซี ช่วยในเรื่องของพัฒนาการของร่างกายของเด็ก ดังต่อไปนี้

  • วิตามินซี ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน หลอดเลือด กระดูกอ่อน กล้ามเนื้อ เนื้อเยื่อใหม่ในร่างกาย ผิวหนังและซ่อมแซมแผลจากความเสียหาย
  • วิตามินซี มีส่วนในการช่วยสร้าง “สารสื่อประสาท” ที่มีความสำคัญอย่างมากต่อกระบวนการส่งสัญญาณของระบบประสาทไปทั่วร่างกาย
  • วิตามินซี ช่วยในการสร้างสาร “คาร์นิทีน” ที่จะช่วยสลายกรดไขมัน เพื่อนำไปใช้เป็นพลังงานในการขับเคลื่อนร่างกาย
  • วิตามินซี ช่วยเสริมสร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรงที่มีความสำคัญอย่างมากในช่วงวัยเจริญพันธุ์ของบเด็ก ๆ
vitamin c ยี่ห้อไหนดี

ผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นหากร่างกายไม่ได้รับวิตามินซีอย่างเพียงพอ

            ถ้าหากร่างกายไม่ได้รับวิตามินซีในปริมาณที่เหมาะสมเพียงพอในแต่ละวัน ก็เสี่ยงที่จะทำให้เกิดอาการผิดปกติอันไม่พึงประสงค์ ส่วนใหญ่แล้วอาการมักจะเกิดขึ้นหลังจากที่ทานวิตามินซีเพียงเล็กน้อยหรือไม่ได้ทานเลยเป็นเวลานาน 1 เดือน โดยเรียงลำดับจากอาการน้อยไปหามาก ดังต่อไปนี้

  • อาการขาดวิตามินซี ทำให้เกิดปัญหาเลือดออกตามไรฟัน
  • อาการขาดวิตามินซี ความรู้สึกเหนื่อยล้า
  • อาการขาดวิตามินซี เจ็บป่วย เป็นไข้
  • อาการขาดวิตามินซี เหงือกอักเสบ
  • อาการขาดวิตามินซี การสังเคราะห์คอลลาเจนเกิดความบกพร่อง ริ้วรอยบนผิวเพิ่มมากขึ้น
  • อาการขาดวิตามินซี เกิดรอยหมองคล้ำบนผิว ผื่นแดง รอยจ้ำ
  • อาการขาดวิตามินซี อาการปวดข้อ
  • อาการขาดวิตามินซี ความสามารถในการรักษาบาดแผลลดน้อยลง
  • อาการขาดวิตามินซี อาการซึมเศร้า
  • อาการขาดวิตามินซี สูญเสียฟัน เนื่องจากเนื้อเยื่อและเส้นเลือดฝอยในช่องปากเปราะบาง
  • อาการขาดวิตามินซี อาการโลหิตจาง เพราะการดูดซึมธาตุเหล็กต่ำ
  • อาการขาดวิตามินซี อาจเกิดโรคเกี่ยวกับกระดูกขึ้นในเด็ก
  • อาการขาดวิตามินซี อาจถึงขั้นเสียชีวิตจากภาวะเลือดออกตามไรฟัน

**อาการผลข้างเคียงในข้างต้นจะเริ่มปรากฏขึ้นให้เห็น เมื่อปริมาณของวิตามินซีในร่างกายลดน้อยลงต่ำกว่า 10 มิลลิกรัมต่อวัน ติดต่อกันเป็นระยะเวลานานหลายสัปดาห์

คนกลุ่มไหนบ้างที่มีความเสี่ยงต่อสภาวะร่างกายขาดแคลนวิตามินซี!?

            สำหรับคนที่ตกอยู่ในกลุ่มของคนที่มีความเสี่ยงร่างกายจะขาดแคลนวิตามินซี จนนำไปสู่การเกิดโรคหรือข้อบกพร่องด้านสุขภาพร่างกายนั้น ได้แก่กลุ่มคนดังต่อไปนี้

1. กลุ่มคนที่มีแนวโน้มขาดวิตามินซี : ผู้สูบบุหรี่

            การศึกษาพบว่า คนที่สูบบุหรี่จะมีปริมาณของวิตามินซีในพลาสมาและเม็ดเลือดขาวต่ำกว่าคนที่ไม่สูบบุหรี่ ทำให้มีความต้องการวิตามินซีเข้าไปทดแทนมากกว่าคนปกติทั่วไปถึง 35 มิลลิกรัม ต่อวัน นอกจากนี้ คนที่สูดควันบุหรี่ หรือที่มักเรียกกันว่าบุหรี่มือสองเองก็ปริมาณของวิตามินซีในร่างกายเองก็จะลดน้อยลงด้วยเช่นกัน

2. กลุ่มคนที่มีแนวโน้มขาดวิตามินซี : ทารกที่ไม่ได้ดื่มนมมารดา

            สำหรับทารกที่ได้ดื่มนมมารดาหรือนมผงสูตรสำหรับเด็กทารกโดยเฉพาะจะได้รับปริมาณของวิตามินซีอย่างเหมาะสม แต่ทารกที่ดื่มนมวัวแบบระเหยหรือการต้มจะทำให้เกิดสภาวะขาดแคลนวิตามินซี เนื่องจากความร้อนจะทำลายวิตามินซีภายในน้ำนมไปจนเกือบหมด

3. กลุ่มคนที่มีแนวโน้มขาดวิตามินซี : ผู้ที่ทานอาหารได้จำกัดปราศจากความหลากหลาย

            เป็นที่ทราบกันดีว่าผักและผลไม้หลายชนิด เป็นแหล่งวิตามินซีชั้นดี แต่สำหรับคนที่มีข้อจำกัดด้านอาหารหรือไม่สามารถเข้าถึงอาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินซีได้ ก็อาจจะทำให้เกิดภาวะขาดแคลนวิตามินซีได้เช่นกัน

4. กลุ่มคนที่มีแนวโน้มขาดวิตามินซี : ผู้ที่มีปัญหาการดูดซึมและปัญหาสุขภาพบางประการ

            เงื่อนไขด้านสุขภาพบางประการอาจทำให้เกิดปัญหาในการดูดซึมวิตามินซีเข้าสู่ร่างกาย เช่น คนที่มีปัญหาภาวะการดูดซึมของลำไส้บกพร่อง (Cachexia) ขั้นรุนแรง ผู้ป่วยโรคมะเร็ง และโรคไตวายเรื้อรังระยะสุดท้ายที่อยู่ในระหว่างการฟอกไต เป็นต้น

วิตามินซี 500 mg. เหมาะกับคนที่มีปัญหาสุขภาพหรือเปล่า!?

            สำหรับคนที่มีปัญหาสุขภาพในข้างต้น เหมาะกับการกินวิตามินซีเสริม 500 mg. ขึ้นไป ถือว่ากำลังเพียงพอ เพราะไม่มากจนเกินไปกระทั่งสร้างภาระให้กับร่างกาย และไม่น้อยจนเกินไป สามารถช่วยในการบำรุงสุขภาพกับผิวพรรณในระดับที่เหมาะสม

ปริมาณวิตามินซีที่ร่างกายต้องการอย่างเหมาะสมต่อวัน (สำหรับคนทั่วไป)

            สำหรับปริมาณของวิตามินซีที่เหมาะสมสำหรับคนทั่วไปนั้น สามารถทำการอ้างอิงได้จากตารางดังต่อไปนี้

ช่วงอายุ

เพศชาย

เพศหญิง

ขณะตั้งครรภ์

ให้นมบุตร

0-6 เดือน

40 มิลลิกรัม

40 มิลลิกรัม

7-12 เดือน

50 มิลลิกรัม

50 มิลลิกรัม

1-3 ปี

15 มิลลิกรัม

15 มิลลิกรัม

4-8 ปี

25 มิลลิกรัม

25 มิลลิกรัม

9-13 ปี

45 มิลลิกรัม

45 มิลลิกรัม

14-18 ปี

75 มิลลิกรัม

65 มิลลิกรัม

80 มิลลิกรัม

115 มิลลิกรัม

อายุ 19 ปี ขึ้นไป

92 มิลลิกรัม

75 มิลลิกรัม

85 มิลลิกรัม

120 มิลลิกรัม

 

  ***คนที่สูบบุหรี่ มีความต้องการวิตามินซีในปริมาณมากกว่าในตารางตามช่วงอายุ +35 มิลลิกรัม / วัน

ไขปริศนาคาใจทานวิตามินซีวันละ 1,000 มิลลิกรัม ดีหรือไม่ต่อสุขภาพ!?

            ประเด็นการทานวิตามินซีวันละ 1,000 มิลลิกรัม ยังคงเป็นหัวข้อที่ถกเถียงกันอย่างมากว่าสรุปแล้วเป็นผลดี หรือผลเสียต่อสุขภาพกันแน่!?

            อ้างอิงจากคำแนะนำของแพทย์ ปริมาณของวิตามินซีต่อวันที่ทานเข้าสู่ร่างกายไม่ควรเกินวันละ 1,000 มิลลิกรัม ซึ่งถือว่าเป็นเพดานสูงสุดที่ทางร่างกายสามารถทำการขจัดออกเองได้ตามธรรมชาติ และปริมาณที่มากจนเกินไปอาจยังทำให้เกิดผลข้างเคียงไม่พึงประสงค์อีกหลายรายการที่จะขอกล่าวถึงในหัวข้อถัดไป

ผลข้างเคียงจากการกินวิตามินซีเป็นเวลานาน!?

         ถึงแม้ว่าวิตามินซีจะมีประโยชน์มากมายต่อร่างกาย แต่การกินในปริมาณที่มากจนเกินไปต่อเนื่องเป็นระยะเวลานานก็อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพได้เช่นกัน สำหรับผลข้างเคียงจากการกินวิตามินซีจนเกินพอดี มีดังต่อไปนี้

  • เกิดความรู้สึกไม่สบายท้อง
  • เกิดความรู้สึกปวดมวนท้อง
  • เกิดอาการท้องเสียอย่างรุนแรง
  • เกิดอาการปัสสาวะบ่อย
  • เกิดอาการภาวะโลหิตจาง
  • เพิ่มโอกาสเสี่ยงในการเป็นนิ่วในไต

อย่างไรก็ตาม โอกาสที่จะเกิดผลข้างเคียงจากการทานวิตามินซีในข้างต้นเหล่านี้ เป็นสิ่งที่มีโอกาสเกิดขึ้นได้ค่อนข้างน้อย เนื่องจากวิตามินซีเป็นวิตามินที่สามารถ “ละลายน้ำได้” ทำให้สามารถถูกขับออกจากทางร่างกายได้ทางปัสสาวะ ดังนั้น ต่อให้ทานเข้าไปมากเพียงใด ร่างกายก็จะสามารถขับมันออกมาตามธรรมชาติได้นั่นเอง

กินวิตามินซีแล้วฉี่เป็นสีเหลืองอันตรายหรือเปล่า!?

            สำหรับประเด็นนี้ ทางสำนักคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้มีการอธิบายเอาไว้ว่า เมื่อกินวิตามินซีแล้วเกิดอาการฉี่เหลืองขึ้นมานั้นถือเป็นเรื่องที่ปกติ แสดงให้เห็นว่าร่างกายได้ทำการละลายวิตามินซีที่มีอยู่ปริมาณมากในร่างกายออกมาในรูปแบบของฉี่ ทำให้เกิดสีเหลืองเข้มมากขึ้นกว่าปกติ

            ถึงแม้ว่าฉี่สีเหลืองที่เกิดขึ้นจากการทานวิตามินซีจะไม่เป็นอันตราย แต่ก็ควรระมัดระวังไม่ให้มีการทานวิตามินซีเป็นจำนวนมากเกินความต้องการเป็นเวลาติดต่อกันนานจนเกินไป เพราะอาจทำให้เกิดการตกตะกอนทำให้เกิดปัญหา “นิ่วในไต” ได้เช่นกัน

การกินวิตามินซี มีผลกระทบกับตัวยาหรือการรักษาด้านการแพทย์หรือเปล่า!?

            ผลกระทบของการกินวิตามินที่มีต่อตัวยาหรือการรักษาพยาบาล มีหนึ่งประเด็นที่ยังคงเป็นข้อถกเถียงกันอยู่ในวงการแพทย์คือ กรณี “เคมีบำบัดและการฉายรังสี”

            ข้อมูลจากการศึกษาบางส่วนระบุว่า สารต่อต้านอนุมูลอิสระในวิตามินซี อาจทำการปกป้องเซลล์เนื้องอกจากการฉายรังสีและยาเคมีบำบัด เช่น ตัวยาไซโคลฟอสฟาไมด์ คลอแรมบูซิล คาร์มัสทีน บูซัลแฟน ไทโอทีปา และด็อกโซรูบิซิน เป็นต้น

            ดังนั้น คนที่กำลังจะเข้ารับการเคมีบำบัดหรือฉายรังสี ควรที่จะปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเนื้องอกวิทยาก่อนทำการทานวิตามินซี หรืออาหารเสริมต่อต้านอนุมูลอิสระอื่นในปริมาณที่สูง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษาให้มากขึ้นกว่าเดิม

วิตามินซี กับ ยา

วิตามินซี กินแทนยาแก้หวัดได้หรือเปล่า!?

            เชื่อว่าหลายคนคงจะเคยได้ยินผ่านหูกันมาอย่างยาวนานว่า เมื่อเป็นหวัดสามารถกินวิตามินซีแทนยาแก้หวัดได้ แต่ที่จริงแล้วจากการศึกษาของคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ได้ทำการวิจัยเกี่ยวกับประเด็นนี้และมีความเห็นว่า วิตามินซี “ไม่สามารถกินแทนยาแก้หวัดได้”

            นอกจากนี้ ผลการวิจัยยังพบอีกว่าการทานวิตามินซีเป็นประจำทุกวัน ก็ยังไม่ได้มีคุณสมบัติในการป้องกันหวัดและไม่สามารถลดความเสี่ยงในการเป็นหวัดได้เช่นกัน *ยกเว้น กลุ่มของคนที่ออกกำลังกายหรือเล่นกีฬาเป็นประจำ ที่สามารถลดความเสี่ยงจากการเป็นหวัดได้มากถึง 50%

            อย่างไรก็ตาม ผลของการวิจัยยังคงค้นพบว่า การทานวิตามินซีเป็นประจำทุกวันจะช่วย “ลดความรุนแรง” และ “ระยะเวลาในการเป็นหวัด” ให้น้อยยลงกว่าเดิม โดยปริมาณที่เหมาะสมคือประมาณ 1-3 กรัม ต่อวัน ที่สำคัญคือ หากไม่ได้รับประทานวิตามินซีอย่างต่อเนื่อง แล้วเลือกมาทานหลังจากที่เป็นหวัดแล้ว วิตามินซีจะไม่ช่วยในเรื่องของหวัดแต่อย่างใด

ผลไม้อะไรบ้างที่มีปริมาณของวิตามินซีสูง ฝรั่ง ส้ม มังคุด เลือกทานอันไหนดีที่สุด!?

            สำหรับคนที่เลือกทานวิตามินซีจากแหล่งธรรมชาติ อาจสงสัยว่าบรรดาผลไม้ในประเทศไทยนั้น เช่น ฝรั่ง ส้ม มังคุด เป็นต้น ชนิดไหนที่มีปริมาณของวิตามินซีน่าสนใจและมีปริมาณมากน้อยเพียงใดกันบ้าง ลองมาทำความรู้จักกับผลไม้ที่อุดมไปด้วยวิตามินซีกันเลย

ผลไม้

ปริมาณวิตามินซี / 100 กรัม

ฝรั่ง

160 มิลลิกรัม

ส้ม

53.2 มิลลิกรัม

มะขามป้อม

276 มิลลิกรัม

สตรอว์เบอร์รี

58.8 มิลลิกรัม

ลิ้นจี่

71.5 มิลลิกรัม

มะละกอ

62 มิลลิกรัม

ลูกพลับ

61 มิลลิกรัม

ส้มโอ

61 มิลลิกรัม

สับปะรด

48 มิลลิกรัม

กีวี่

105 มิลลิกรัม

ระกำ

91.72 มิลลิกรัม

มะม่วง

36.4 มิลลิกรัม

มะนาว

29.1 มิลลิกรัม

แคนตาลูป

60 มิลลิกรัม

เสาวรส

30 มิลลิกรัม

ผักประเภทไหนบ้างที่อุดมไปด้วยวิตามินซีสูง!?

         นอกจากการทานผลไม้เพื่อให้ได้รับวิตามินซีแล้ว ควรทำการทานผักที่มีวิตามินซีจำนวนมากเพื่อเป็นการเสริมปริมาณให้มีความเหมาะสมในแต่ละวัน และยังเป็นการช่วยเพิ่มคุณค่าทางด้านโภชนาการให้ครบ 5 หมู่มากยิ่งขึ้น สำหรับผักที่มีปริมาณของวิตามินซีสูงนั้น มีดังต่อไปนี้

 

ประเภทของผัก

ปริมาณวิตามินซี / 100 กรัม

ผักหวาน

168 มิลลิกรัม

ใบเหลียง

192 มิลลิกรัม

ปวยเล้ง

120 มิลลิกรัม

พริกหวาน

80.4 มิลลิกรัม

บร็อคโคลี่

89.2 มิลลิกรัม

คะน้า

147 มิลลิกรัม

ใบมะรุม

141 มิลลิกรัม

กะหล่ำดอก

48.2 มิลลิกรัม

กะหล่ำดาว

85 มิลลิกรัม

ผักเคล

120 มิลลิกรัม

ชะอม

58 มิลลิกรัม

ผักโขม

120 มิลลิกรัม

มะระขี้นก

0.4 มิลลิกรัม

มะเขือเทศ (ขนาดกลาง)

20 มิลลิกรัม

มันฝรั่ง

20 มิลลิกรัม

มันเทศ

2 มิลลิกรัม

รูปแบบการทานของวิตามินซี ที่วางจำหน่ายอยู่ในปัจจุบัน มีอะไรกันบ้าง!?

         สำหรับรูปแบบการทานวิตามินซีที่มีการวางจำหน่ายอยู่ในปัจจุบันสามารถแบ่งออกได้เป็นหลายแบบ โดยถูกออกแบบมาเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ที่ต้องการทานวิตามินซี สำหรับรูปแบบของวิตามินซีที่พบได้บ่อยในปัจจุบันนั้น มีดังต่อไปนี้

1. วิตามินซีรูปแบบเม็ด

            วิตามินซีรูปแบบมาตรฐานที่สามารถหาซื้อได้จากร้านขายยาหรือห้างสรรพสินค้าทั่วไป มีลักษณะเป็นเม็ดขนาดใหญ่ทำให้ค่อนข้างกลืนได้ลำบากและจำเป็นที่จะต้องดื่มน้ำตามเป็นจำนวนมาก เนื่องจากวิตามินซีในรูปแบบเม็ดต้องอาศัยน้ำช่วยในการแตกตัวของวิตามินซีในร่างกาย

2. วิตามินซีรูปแบบแคปซูล

            วิตามินซีรูปแบบแคปซูลสามารถทานได้ง่ายกว่าแบบเม็ด สามารถกลืนได้ง่ายและแตกตัวเพื่อให้ร่างกายนำไปใช้ประโยชน์ได้อย่างรวดเร็วมากกว่ารูปแบบเม็ด

3. วิตามินซีรูปแบบเคี้ยว

            วิตามินซีแบบเคี้ยวจะมีลักษณะที่ดูคล้ายกับเยลลี่ มักได้รับการปรุงแต่งสี กลิ่นและรสชาติจนดูคล้ายกับขนมรสหวาน เหมาะสำหรับเด็กที่ไม่ชอบทานวิตามินซีในรูปแบบของยา แต่ปริมาณของวิตามินซี

อาจจะค่อนข้างน้อยกว่ารูปแบบอื่น ดังนั้น ควรเลือกวิตามินซีรูปแบบเคี้ยวให้มีปริมาณของวิตามินที่เหมาะสม โดยตรวจสอบจากฉลากของผลิตภัณฑ์

4. วิตามินซีรูปแบบผง

         เป็นวิตามินซีที่เหมาะกับคนที่ต้องการผสมเข้ากับน้ำเปล่าหรือน้ำผลไม้สำหรับชงดื่ม ทำให้สามารถดื่มวิตามินซีเข้าสู่ร่างกายได้อย่างรวดเร็วและง่ายดายมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม

5. วิตามินซีแบบยาเม็ดฟู่

            วิตามินซีประเภทนี้ สามารถดื่มได้อย่างง่ายดายและถูกเก็บเอาไว้ในลักษณะของเม็ดสำหรับใส่ลงไปในแก้วน้ำเปล่าก็จะเกิดการแตกตัว กลายมาเป็นวิตามินแบบน้ำพร้อมดื่มได้อย่างง่ายดายและสามารถละลายน้ำได้อย่างรวดเร็วมากกว่าแบบผง อีกทั้งร่างกายยังสามารถดูดซึมวิตามินซีเพื่อนำไปใช้งานได้อย่างรวดเร็วมากที่สุดอีกด้วย

6. วิตามินซีแบบน้ำ

            วิตามินซีแบบน้ำ กำลังได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นเป็นอย่างมาก เหมาะสำหรับคนที่ไม่ชอบการกลืนเม็ดวิตามินซี หรือเด็ก ๆ อย่างไรก็ตาม การเลือกซื้อวิตามินซีแบบน้ำ ควรหลีกเลี่ยงแบบที่มีส่วนผสมของน้ำตาลอยู่เป็นปริมาณมาก เพราะไม่เป็นผลดีต่อร่างกายและอาจทำให้เกิดปัญหาฟันผุได้อีกด้วย

7. วิตามินซีแบบเม็ดอม

            วิตามินซีแบบเม็ดอม เหมาะกับคนที่ไม่ชอบการกลืนยา ทำให้การอมอาจเป็นคำตอบที่ดี แต่ก็ไม่ควรทำการอมบ่อยมากจนเกินไป เนื่องจากกรดของวิตามินซีอาจทำลายสารเคลือบฟันจนนำไปสู่ปัญหาการเกิดฟันผุกร่อนได้เช่นกัน

8. วิตามินซีแบบฉีด (Vitamin C Injection)

            เป็นวิตามินในรูปแบบของยาที่จำเป็นจะต้องฉีดเข้าสู่ร่างกาย โดยขั้นตอนนี้จะต้องทำโดยแพทย์หรือนางพยาบาลเท่านั้น นอกจากนี้ยังไม่เหมาะสำหรับการใช้เป็นประจำทุกวันอีกด้วย สำหรับคนที่เหมาะกับการฉีดวิตามินซี (Vitamin C Injection) เหมาะกับคนที่เกิดภาวะวิตามินซีบกพร่อง หรือคนที่ร่างกายขาดวิตามินซีอย่างมากเท่านั้น

ยา วิตามิน ซี

การฉีดวิตามินซี (Vitamin C Injection) ช่วยทำให้ผิวขาวได้จริงหรือเปล่า!?

            ในกลุ่มของคนที่รักสวยรักงามมีความเชื่อว่าการฉีดวิตามินซี (Vitamin C Injection) เข้าสู่ร่างกาย จะช่วยทำให้ “ผิวขาว” ได้อย่างรวดเร็วมากกว่าการกินวิตามินซีเป็นอาหารเสริม เพราะเป็นการฉีดเข้าสู่เส้นเลือดโดยตรง

            กระแสความเชื่อนี้ทำให้เกิดความนิยมพบแพทย์ด้านความงามเพื่อทำการฉีดวิตามินซี (Vitamin C Injection) โดยปกติแล้วคอร์สการฉีดจะอยู่ที่ประมาณทั้งหมด 10 เข็ม ทำการฉีกสัปดาห์ละสองเข็มและผลลัพธ์ด้านผิวขาวจะเริ่มปรากฏให้เห็นเมื่อฉีดตั้งแต่เข็มที่สองเป็นต้นไป

            อย่างไรก็ตาม งานวิจัยหลายชิ้นได้มีผลออกมาแย้งกับความเชื่อนี้ เพราะพบว่าการการฉีดวิตามินซี (Vitamin C Injection) เข้าสู่เส้นเลือดโดยตรงจะมีอันตรายมากกว่าการทานวิตามินซีเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะการฉีกเข้าสู่ “เส้นเลือดดำ” ในปริมาณมากกว่า 500 มิลลิกรัม

ใครบ้างที่ไม่ควรฉีดวิตามินซี (Vitamin C Injection)

            ไม่ใช่ว่าทุกคนที่สามารถทำการฉีดวิตามินซี (Vitamin C Injection) เข้าสู่เส้นเลือดได้ ถ้าหากคุณผู้อ่านอยู่ในกลุ่มเสี่ยงที่มีปัญหาสุขภาพดังต่อไปนี้ ขอแนะนำให้หลีกเลี่ยงการฉีดวิตามินซี (Vtamin C Injection) จะเป็นผลดีกับตัวเองมากกว่า

  • ผู้ป่วยโรคตับ
  • ผู้ป่วยโรคนิ่ว
  • ผู้ป่วยที่มีภาวะเอนไซม์บกพร่อง (G6PD Deficiency)
  • ผู้ป่วยที่มีภาวะของธาตุเหล็กในร่างกายที่มากเกินกำหนด
  • ผู้หญิงที่กำลังอยู่ในระหว่างการตั้งครรภ์

เก็บรักษาวิตามินซีอย่างไร ถึงจะยังสภาพความเป็นยาได้อย่างยาวนาน!?

         สรรพคุณของวิตามินซีจะสามารถแสดงผลลัพธ์ให้เห็นได้อย่างเต็มที่และเป็นยารักษาหวัดได้อย่างยอดเยี่ยมถ้าหากได้รับการเก็บรักษาเอาไว้อย่างเหมาะสม โดยควรอยู่ในบริเวณที่แห้งและไม่สัมผัสถูกกับแสงแดดโดยตรง

ถ้าหากใครสงสัยว่าวิตามินซีที่เก็บเอาไว้เสื่อมสภาพจากฐานะของยาแล้วหรือไม่!? สามารถสังเกตได้จากสีของวิตามินซี ถ้าหากเปลี่ยนจากสีส้มกลายเป็นสีเหลืองหลังจากที่เปิดใช้งานแล้ว แสดงว่าวิตามินซีเหล่านั้นเสื่อมสภาพแล้วและไม่ควรนำมารับประทาน

วิตามินซีกินตอนไหนได้ประโยชน์ต่อร่างกายมากที่สุด!?

            คณะเภสัช มหาวิทยาลัยมหิดล ได้ให้คำแนะนำเอาไว้ว่า การทานวิตามินซีนั้นสามารถที่จะทำได้ตามความสะดวก แต่ไม่ควรทานตอน “ท้องว่าง” และควรทาน “หลังหรือพร้อมอาหาร” เนื่องจากอาหารจะช่วยกระตุ้นร่างกายให้มีการดูดซึมนำวิตามินซีไปใช้งาน และยังช่วยป้องกันอาการระคายเคืองที่อาจเกิดขึ้นจากกรดของวิตามินซีได้อีกด้วย

ทานวิตามินซีกับอะไรมีประโยชน์มากที่สุด!?

            สำหรับสารอาหารที่สามารถทานคู่กับวิตามินซีได้ แถมยังช่วยส่งเสริมประสิทธิภาพในการบำรุงสุขภาพและความสวยงามของร่างกายได้มากยิ่งขึ้น มีอยู่ 3 ประเภทที่ควรทราบ ดังต่อไปนี้

1. ทานวิตามินซีคู่กับธาตุเหล็ก

            วิตามินซีมีคุณสมบัติช่วยทำให้ร่างกายมีการดูดซึมธาตุเหล็กได้มากขึ้นกว่าเดิม ร่างกายจึงสามารถสร้างเม็ดเลือดแดงได้มากขึ้น ป้องกันการเกิดสภาวะผิวพรรณซีดเซียวจากการขาดธาตุเหล็กได้เป็นอย่างดี

2. ทานวิตามินซีคู่กับคอลลาเจน

            วิตามินซีมีคุณสมบัติในการละลายน้ำ ทำให้เมื่อทานคู่กับคอลลาเจน ร่างกายก็จะยิ่งสามารถดูดซับน้ำคอลลาเจนไปใช้ในการซ่อมแซมเนื้อเยื่อที่เสื่อมสภาพให้กลับสู่สภาพที่สมบูรณ์มากขึ้นกว่าเดิมและเมื่อทานคู่กันเป็นประจำสม่ำเสมอก็จะช่วยลดการเกิดการสร้างเม็ดสีเมลานินให้น้อยลง ฟื้นฟูผิวที่เสียจากแสงแดด ผิวพรรณเปล่งปลั่งดูมีสุขภาพที่ดีมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม

3. ทานวิตามินซีคู่กับกลูต้าไธโอน

            เมื่อทานวิตามินซีกับกลูต้าไธโอน ก็จะทำให้ผิวพรรณในร่างกายมีสุขภาพที่ดีมากขึ้นกว่าเดิม นอกจากนี้ยังช่วยขับสารพิษที่ไม่พึงประสงค์ออกจากเซลล์ โดยเฉพาะสารโลหะหนัก สารพิษและอนุมูลอิสระ ที่เป็นอันตรายต่อระบบการทำงานต่าง ๆ ของเซลล์ และลดกระบวนการเกิดเม็ดสีเมลานินที่นำไปสู่ปัญหาผิวคล้ำเสียได้อีกด้วย

Vitamin C ยี่ห้อไหนดีต่อสุขภาพ คุ้มค่าสมราคาที่ต้องจ่ายมากที่สุดในปี 2021

หลังจากที่ได้ทราบประโยชน์และวิธีการเลือกซื้อวิตามินซีที่น่าสนใจกันไปแล้วในข้างต้น คราวนี้ลองมาทำความรู้จักกันดีกว่าว่า Vitamin C [เซรั่มวิตามินซี] หรือ เซรั่มวิตซีเกาหลี ยี่ห้อไหนดี น่าซื้อมาติดบ้านเอาไว้เพื่อช่วยในการบำรุงสุขภาพให้แข็งแรงมากยิ่งขึ้นที่สุด

1. Vitamin C ยี่ห้อไหนดี #Blackmore

คุณสมบัติที่น่าสนใจของผลิตภัณฑ์วิตามินซี

  • Vitamin C Blackmore มีส่วนผสมของวิตามินซี โรสฮิพ ดราย ฟรุท ไบโอฟลาโวนอยด์ รูทิน เฮสเพอริดิน และอะซีโรลา ดรายฟรุท
  • Vitamin C Blackmore ส่วนผสมทั้งหมดมาจากธรรมชาติ
  • Vitamin C Blackmore มีส่วนผสมของสารไบโอฟลาโวนอยด์ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดูดซึมวิตามินซีให้ดีมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม

ปริมาณของวิตามินซี

1,000 มิลลิกรัม

รูปแบบของวิตามินซี

แบบเม็ด

ขนาด

31 เม็ด

ราคา (โดยประมาณ)

235 บาท

2. Vitamin C ยี่ห้อไหนดี # Supurra Acerola Cherry Extract Vitamin C

คุณสมบัติที่น่าสนใจของผลิตภัณฑ์วิตามินซี

  • Supurra Acerola Cherry Extract Vitamin C สกัดจาก Acerola Cherry ผลไม้ที่มีปริมาณวิตามินซีสูงมากที่สุดเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก
  • Supurra Acerola Cherry Extract Vitamin C มีส่วนผสมของสารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายเป็นอย่างมาก อาทิเช่น ไบโอฟลาโวนอยด์และไฟโตนูเทรียนท์ เป็นต้น

ปริมาณของวิตามินซี

1,000 มิลลิกรัม

รูปแบบของวิตามินซี

เม็ด

ขนาด

30 เม็ด

ราคา (โดยประมาณ)

399 บาท

3. Vitamin C ยี่ห้อไหนดี # Nature’s Bounty, Vitamin C Gummies

คุณสมบัติที่น่าสนใจของผลิตภัณฑ์วิตามินซี

  • Nature’s Bounty, Vitamin C Gummies ช่วยทานง่าย รสชาติอร่อย เหมาะกับเด็ก
  • Nature’s Bounty, Vitamin C Gummies ช่วยเพิ่มระดับความภูมิกันของร่างกาย ป้องกันไข้หวัดและภูมิแพ้
  • Nature’s Bounty, Vitamin C Gummies ช่วยทำให้ผิวพรรณสดใสมากขึ้นกว่าเดิม
  • Nature’s Bounty, Vitamin C Gummies ช่วยลดเลือนรอยแผลเป็น
  • Nature’s Bounty, Vitamin C Gummies ช่วยทำให้บาดแผลหายรวดเร็วมากขึ้น

ปริมาณของวิตามินซี

250 มิลลิกรัม

รูปแบบของวิตามินซี

แบบเคี้ยว

ขนาด

80 เม็ด

ราคา (โดยประมาณ)

295 บาท

4. Vitamin C ยี่ห้อไหนดี # Acorbic VITAMIN C

คุณสมบัติที่น่าสนใจของผลิตภัณฑ์วิตามินซี

  • Acorbic VITAMIN C ช่วยเสริมภูมิคุ้มกันของร่างกายให้ดีมากขึ้นกว่าเดิม ลดอาการภูมิแพ้
  • Acorbic VITAMIN C นำเข้าจากประเทศสหรัฐอเมริกา
  • Acorbic VITAMIN C ป้องกันปัญหาโรคเลือดออกตามไรฟัน
  • Acorbic VITAMIN C เมื่อทานเป็นประจำจะช่วยเสริมให้ผิวพรรณมีความกระจ่างสดใสมากขึ้นกว่าเดิม

ปริมาณของวิตามินซี

1,000 มิลลิกรัม

รูปแบบของวิตามินซี

เม็ด

ขนาด

30 เม็ด

ราคา (โดยประมาณ)

120 บาท

5. Vitamin C ยี่ห้อไหนดี # Kirkland Signature Vitamin C

คุณสมบัติที่น่าสนใจของผลิตภัณฑ์วิตามินซี

  • Kirkland Signature Vitamin C นำเข้าและได้รับความนิยมอย่างมากจากประเทศสหรัฐอเมริกา
  • Kirkland Signature Vitamin C มีส่วนผสมที่มีประโยชน์ต่อร่างกายและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของวิตามินซีให้มากยิ่งขึ้น อย่างเช่น สารไบโอฟลาโวนอยด์ เป็นต้น

ปริมาณของวิตามินซี

1,000 มิลลิกรัม

รูปแบบของวิตามินซี

เม็ด

ขนาด

500 เม็ด

ราคา (โดยประมาณ)

1,000 บาท

———————–

5 ประโยชน์ ของ วิตามิน ซี

มารู้จักกับเซรั่มวิตามินซี (Serum Vitamin C) ผู้ช่วยที่จะทำให้ผิวภายนอกเปล่งประกายมากกว่าที่เคย!

            หลังจากที่ได้ทำความรู้จักกับวิตามินซี ในฐานะของสารอาหารสารพัดประโยชน์ที่ช่วยบำรุงร่างกายให้แข็งแรง เปล่งประกายสุขภาพดีออกมาจากภายในกันแล้ว

            เพื่อเป็นการช่วยยกระดับความสวยงามภายนอกควบคู่กันไปด้วย ในหัวข้อต่อไปก็ไม่ควรพลาดที่จะรู้จักกับเซรั่มวิตามินซีที่จะกลายมาเป็นผู้ช่วยมือดีในการยกระดับผิวพรรณให้สวยงาม สุขภาพดีภายนอกที่บอกเลยว่าไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวงกัน…

เซรั่มวิตามินซี คืออะไร!?

            เซรั่มวิตามินซี คือ ผลิตภัณฑ์สำหรับใช้ในการบำรุงผิวพรรณที่มีส่วนผสมของวิตามินซีและสารต่อต้านอนุมูลอิสระ โดยเนื้อของเซรั่มวิตามินซีจะมอบเนื้อสัมผัสที่มีความเบาบางมากกว่าครีมส่งผลให้สามารถซึมซับเข้าสู่ชั้นผิวได้อย่างรวดเร็ว ไม่เหนียวเหนอะหนะ ไม่ทิ้งความมันส่วนเกินเอาไว้บนผิวหน้าและยังช่วยในการบำรุงผิวพรรณได้อย่างมีประสิทธิภาพที่มากกว่าครีมบำรุงผิวทั่วไปอย่างมาก

เมื่อไหร่ที่ควรเริ่มต้นใช้เซรั่มวิตามินซีในการบำรุงผิวพรรณ!?

            โดยพื้นฐานแล้วสุขภาพผิวพรรณของคนเราจะไม่เหมือนกันขึ้นอยู่กับรูปแบบกิจกรรมการใช้ชีวิต ความเครียดและมลภาวะที่ต้องเผชิญในแต่ละวัน ทำให้บางคนที่ต้องใช้เวลากลางแจ้งบ่อยครั้งหรือมีความเครียดสะสมบ่อย อาจเกิดริ้วรอยขึ้นตั้งแต่อายุ 20 ปี กว่า ๆ ในขณะเดียวกันที่ไม่สามารถรับมือกับความเครียดได้อย่างเหมาะสมและใช้เวลาส่วนใหญ่ทำงานอยู่ในอาคาร กว่าริ้วรอยจะปรากฏให้เห็นเวลาก็ล่วงเลยไปถึงอายุ 40 ปี ก็มีเช่นกัน

            อย่างไรก็ตาม ยิ่งอายุมากขึ้นเท่าไหร่ ผิวหนังที่เคยอุดมไปด้วยคอลลาเจนจำนวนมากที่ทำให้ผิวเรียบเนียน เด้ง นุ่มและสวยงาม การผลิตคอลลาเจนก็จะค่อย ๆ ลดน้อยลง ดังนั้น เพื่อเป็นการช่วยป้องการเสื่อมสภาพของอย่างรวดเร็วและบำรุงผิวพรรณอย่างเหมาะสมตั้งแต่เนิ่น ๆ การใช้เซรั่มวิตามินซีบำรุงผิวตั้งแต่อายุ 20 ปลาย ไปช่วงถึง 30 ต้น ๆ ถือว่าเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมมากที่สุดนั่นเอง

ประโยชน์ที่น่าสนใจของเซรั่ม Vitamin C ในการช่วยดูแลผิวพรรณ

            เพื่อช่วยให้คุณผู้อ่านสามารถเข้าใจเกี่ยวกับประโยชน์ของเซรั่ม Vitamin C ได้อย่างง่ายดายมากยิ่งขึ้น ลองมาติดตามฟังข้อมูลสรุปที่น่าสนใจของเซรั่ม Vitamin C ผ่านหัวข้อย่อยดังต่อไปนี้กันได้เลย

1. เซรั่ม Vitamin C ซึมซาบสู่ผิวอย่างรวดเร็วและบำรุงผิวพรรณได้อย่างล้ำลึก

            เซรั่ม Vitamin C มีคุณสมบัติที่น่าสนใจอย่างมากในการซึมซาบลงสู่ผิวหนังได้โดยตรง ไม่ต้องกังวลว่าเนื้อของเซรั่มจะถูกขจัดออกไปก่อนกระบวนการซึมซาบสู่ชั้นผิว จึงเป็นการช่วยสร้างความมั่นใจได้เป็นอย่างดีว่าประโยชน์ของเนื้อเซรั่มทั้งหมด จะถูกนำมาใช้ในการบำรุงผิวพรรณได้อย่างรวดเร็วและล้ำลึกมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม

2. เซรั่ม Vitamin C อุดมไปด้วยสารต่อต้านอนุมูลอิสระ

            เซรั่ม Vitamin C ประกอบด้วยสารต่อต้านอนุมูลอิสระเป็นจำนวนมาก ที่มีคุณสมบัติในการช่วยต่อต้านริ้วรอยก่อนวัยอันควรพร้อมกับกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิวให้มากยิ่งขึ้นกว่าเดิม ลดปัญหารอยด่างดำ รอยแดงและเพิ่มนุ่มเด้ง นุ่มเนียนให้กับผิวพรรณมากขึ้นจนสามารถสัมผัสได้

3. เซรั่ม Vitamin C ช่วยยกระดับความชุ่มชื้นให้กับผิวพรรณ

            เซรั่ม Vitamin C ช่วยเพิ่มระดับความชุ่มชื้นให้ผิวหน้า ทำให้ผิวกระจ่างสดใส มีน้ำมีนวล เปล่งประกายออร่าน่าสัมผัสเป็นอย่างมาก

4. เซรั่ม Vitamin C ช่วยลดผลกระทบของแสดงแดดที่มีต่อผิว

            เมื่อออกไปนอกบ้านในต้นกลางวัน แน่นอนว่าแดดในเมืองไทยที่สุดแสนร้อนแรงก็พร้อมที่จะทำร้ายผิวได้ตลอดเวลา เซรั่ม Vitamin C มีคุณสมบัติที่น่าสนใจอย่างมากในการช่วยลดผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการสัมผัสของแสงแดดที่เกิดขึ้นได้เป็นอย่างดี

            จากการศึกษาในหัวข้อเรื่อง “Use of topical ascorbic acid and its effects on photodamaged skin topography” ที่ได้รับการเผยแพร่ใน Nation Library of Medicine พบว่า การศึกษาผู้ป่วย 19 คน ที่มีอายุระหว่าง 36-72 ปี ที่มีผิวประเภท Fitzpatrick แบบ 1-3 และผิวหน้าได้รับความเสียหายจากแสงแดดเล็กน้อยถึงปานกลาง

           หลังจากที่มีการใช้กรดแอสคอร์บิกติดต่อกันเป็นเวลา 3 เดือน ผลการศึกษาพบว่าริ้วรอย ผิวสัมผัสและโทนสีผิวที่ถูกทำลายจากแสงแดดได้รับการฟื้นฟูให้ดีขึ้นตามลำดับ มากถึง 68-74% เลยทีเดียว

5. เซรั่ม Vitamin C ช่วยลดอาการระคายเคืองที่เกิดขึ้นจากการสัมผัสสารคลอรีน

            เซรั่ม Vitamin C มีคุณสมบัติในการช่วยปกป้องผิวและลดอาการระคายเคืองที่เกิดขึ้นจากการสัมผัสกับสารคลอรีน ซึ่งเป็นหนึ่งในสารที่พบได้บ่อยอย่างมากโดยเฉพาะในสระว่ายน้ำให้น้อยลง ดังนั้น ถ้าหากใครชื่นชอบการว่ายน้ำ การใช้เซรั่ม Vitamin C บำรุงผิวเป็นประจำก็จะช่วยดูแลผิวได้มากขึ้นอย่างไม่ทันรู้ตัว

6. เซรั่ม Vitamin C ช่วยซ่อมแซมและฟื้นฟูผิวในระดับเซลล์

            เซรั่ม Vitamin C มีความน่ามหัศจรรย์อย่างมากในการซึมซาบลงไปถึงผิวชั้นลึก พร้อมกับฟื้นฟูสภาพของผิวพรรณถึงระดับเซลล์ เพิ่มความแข็งแรง สดใสให้กับผิวพรรณได้มากกว่าที่เคยเป็น

7. เซรั่ม Vitamin C ช่วยลดปัญหาการเกิดสิว

            หลายคนอาจไม่เคยทราบมาก่อน เซรั่ม Vitamin C สามารถช่วยลดความมันของใบหน้าและขจัดน้ำมันที่อยู่บนชั้นผิวให้น้อยลง ซึ่งน้ำมันเหล่านี้เองเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้สิ่งสกปรกเกิดการเกาะติดอยู่กับผิวกระทั่งทำให้รูขุมขนอุดตันและกลายเป็นปัญหาสิวขึ้นมาในที่สุด

เซรั่ม vitamin c

คอลลาเจน เซรั่ม วิตามินซีเข้มข้น คืออะไร!? มีประโยชน์กับผิวแตกต่างจาก เซรั่ม Vitamin C ทั่วไปหรือเปล่า!?

            คอลลาเจนเซรั่มวิตามินซีเข้มข้น ที่จริงแล้วคือ “คอลลาเจน เซรั่ม” ที่มีองค์ประกอบจากส่วนผสมทางธรรมชาติอย่างเข้มข้นมากเป็นพิเศษ ด้วยการเพิ่มปริมาณของกรดไฮยาลูโรนิกมากขึ้นกว่าเดิม ทำให้สามารถที่จะช่วยเพิ่มระดับความยืดหยุ่น ความกระชับและต่อต้านริ้วรอยให้มากยิ่งขึ้นกว่าเดิม

            ในขณะเดียวกัน คอลลาเจนเซรั่มวิตามินซีเข้มข้นก็จะเพิ่มปริมาณของส่วนผสมของวิตามินซี หรือวิตามินเข้าไปด้วย ส่งผลให้ผิวพรรณนุ่มเนียนมากขึ้นอย่างมากนั่นเอง

ไม่ค่อยมีเงินในกระเป๋ามากนัก เลือกใช้เซรั่มวิตามินซีจาก 7-11 ได้หรือเปล่า!?

            หลายคนคิดว่ายิ่งเซรั่มวิตามินซีมีราคาสูงมากเท่าไหร่ ประสิทธิภาพในการบำรุงผิวพรรณก็จะมากขึ้นตามไปด้วย ที่จริงแล้วความเชื่อดังกล่าวก็ไม่ถึงกับไม่ถูกต้อง เพราะยิ่งเซรั่มวิตามินซีมีราคาสูงมากเท่าไหร่ส่วนผสมและวัตถุดิบก็จะยิ่งมีคุณภาพที่ดีมากขึ้นตามไปด้วยนั่นเอง

            แต่ในขณะเดียวกันเซรั่มวิตามินซีที่วางจำหน่ายอยู่ใน 7-11 เอง ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่ดี เพราะผลิตภัณฑ์เหล่านี้ก็ได้มีการปรับปรุงสูตรขั้นมาเพื่อให้มีความเหมาะสมกับคนไทยมากที่สุดเช่นกัน เพียงแต่ควรรู้จักกับวิธีการเลือกซื้อเซรั่มวิตามินซีใน 7-11 ในสูตรที่เหมาะสมกับตัวเอง

            สำหรับคนที่มีเงินทุนในกระเป๋าไม่มากนัก แต่อยากสวยขึ้นลองมาฟังวิธีการเลือกซื้อเซรั่มวิตามินซีจาก 7-11 หรือแหล่งจำหน่ายอื่นที่มีความน่าสนใจ อ้างอิงจากคำแนะนำของชาว Pantip ในหัวข้อถัดไปกันได้เลย

#รีวิว วิธีการเลือกเซรั่มวิตามินซีให้เหมาะกับตัวเองมากที่สุด ในสไตล์ของชาว Pantip

            หลังจากที่ได้ทำการเก็บรวมรวมข้อมูลประสบการณ์และคำรีวิวจากชาว Pantip ที่มีต่อเซรั่มวิตามินซีพบว่า ชาว Pantip มีหลักการเลือกเซรั่มวิตามินซีที่มีความเหมาะสมกับตัวเองที่อยากทำการแบ่งปันให้กับคนที่กำลังมองหาเซรั่มวิตามินซีให้กับตัวเอง ดังต่อไปนี้

#รีวิว วิธีการเลือกเซรั่มวิตามินซีจากชาว Pantip โดยเลือกจากชนิดของเซรั่ม

            สำหรับเซรั่มวิตามินซี ที่ถูกนำมาใช้ในการบำรุงผิวพรรณโดยพื้นฐานแล้วจะสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ประเภทหลัก ดังต่อไปนี้

1. ประเภทของเซรั่มวิตามินซี: Soluble Collagen

            Soluble Collagen หรือที่รู้จักกันในชื่อของ “คอลลาเจนที่สามารถละลายในน้ำได้” เมื่อนำเซรั่มวิตามินซีประเภทนี้มาทาลงบนผิวพรรณ ก็จะช่วยเสริมสร้างโปรตีนหลักของผิวหนังให้มีความแข็งแรง มีความชุ่มชื้นมากขึ้นกว่าเดิม หาซื้อได้ง่าย แต่มีข้อด้อยอยู่ที่ประสิทธิภาพในการซึมซาบสู่ชั้นผิวจะค่อนข้างช้าเล็กน้อย

2. ประเภทของเซรั่มวิตามินซี : Hydrolyzed Collagen

            Hydrolyzed Collagen เป็นคอลลาเจนแบบเอนไซม์ ที่มีคุณสมบัติที่เหมาะสมอย่างมากในการช่วยบำรุงผิวพรรณ ช่วยเพิ่มความแข็งแรง ลดเลือนริ้วรอย ยกกระชับผิวให้เต่งตึงและยังซึมซาบลงสู่ชั้นผิวลึกได้อย่างรวดเร็วมากที่สุด เนื้อสัมผัสเบาบาง ทำให้ทาได้อย่างง่ายดายอีกด้วย

#รีวิว วิธีการเลือกเซรั่มวิตามินซีจากชาว Pantip โดยเลือกจากประเภทของผิวพรรณ

            เซรั่มวิตามินซี แต่ละยี่ห้อมีสูตรที่แตกต่างกันออกไป ทำให้บางสูตรมีส่วนผสมที่ไม่เหมาะกับการใช้กับผิวบางประเภท โดยสามารถสรุปวิธีการเลือกตามประเภทของผิวได้ดังต่อไปนี้

  • คนที่มีผิวแห้ง ควรเลือกเซรั่มวิตามินซีสูตรที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นหรือเพิ่มความสดใสให้กับผิวพรรณมากขึ้นกว่าเดิม
  • คนที่มีผิวมัน ควรเลือกเซรั่มวิตามินซีสูตรที่มีส่วนผสมของน้ำ หรือมีส่วนผสมของกรดซาลิไซลิกที่ช่วยในการสลายน้ำมันที่อยู่บนผิวพรรณ
  • คนที่มีผิวผสม ควรเลือกเซรั่มวิตามินซีสูตรน้ำ ที่สามารถช่วยปรับสภาพผิวโดยรวมได้อย่างเหมาะสม

#รีวิว วิธีการเลือกเซรั่มวิตามินซีจากชาว Pantip โดยเลือกจากส่วนผสม

            ส่วนผสมในสูตรของเซรั่มวิตามินซี เป็นอีกหนึ่งประเด็นที่ควรให้ความใส่ใจกันเป็นอย่างมาก เพราะส่วนผสมในแต่ละสูตรนั้นจะทำให้เกิดผลลัพธ์หลังจากการใช้งานที่น่าสนใจเป็นอย่างมากทีเดียว สำหรับส่วนผสมของเซรั่มวิตามินซีที่ชาว Pantip แนะนำให้เลือกใช้กันนั้น มีดังต่อไปนี้

1. เซรั่มวิตามินซีที่มีส่วนประกอบของสารต่อต้านอนุมูลอิสระ

            สารต่อต้านอนุมูลอิสระ เช่น วิตามินซี มีคุณสมบัติที่น่าสนใจในการช่วยลดความเสื่อมสภาพของผิวพรรณที่เกิดขึ้นจากแสงแดด มลภาวะทางอากาศ ช่วยปรับสภาพของสีผิว ลดจำนวนของริ้วรอยที่เกิดขึ้น

2. เซรั่มวิตามินซีที่มีส่วนประกอบของกรดอัลฟ่าและเบต้าไฮดรอกซี

            ส่วนประกอบทั้งสองนี้ สามารถช่วยลดความผิดที่ปกติของเม็ดสีของผิวพรรณ ทำให้จุดด่างดำลดน้อยลงกว่าเดิม เซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพแล้วก็จะถูกกำจัดได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ลดขนาดรูขุมขนที่กว้างให้เล็กลง ปรับสีผิวให้เรียบเนียนมากขึ้น ลดน้ำมันและสิ่งสกปรกที่สะสมบนผิวให้น้อยลง

            อย่างไรก็ตาม ส่วนประกอบในสูตรของเซรั่มวิตามินซีทั้งสองนี้ไม่ค่อยเหมาะกับคนที่มีสภาพผิวที่บอกบาง เพราะอาจทำให้เกิดอาการระคายเคืองได้เนื่องจากสารเหล่านี้มีฤทธิ์เป็นกรดนั่นเอง

3. เซรั่มวิตามินซีที่มีส่วนผสมของวิตามินเอ

            วิตามินเอ หรือเรตินอล เป็นส่วนผสมยอดนิยมในผลิตภัณฑ์ดูแลผิวพรรณหลากหลายชนิด ด้วยคุณสมบัติในการช่วยรักษาสภาพของเซลล์ที่เสียหายจากการสัมผัสกับแสงแดด นอกจากนี้ยังช่วยฟื้นฟูเซลล์ที่รับความเสียหายให้สามารถกลับมาทำงานได้ตามปกติและชะลอการสร้างเม็ดสีผิวเมื่อเผชิญกับแสงแดด ลดปัญหาผิวคล้ำให้น้อยลงได้อีกด้วย

4. เซรั่มวิตามินซีที่มีส่วนผสมของกรดโอเมก้า-3

            กรดโอเมก้า-3 มีคุณสมบัติที่น่าสนใจอย่างมากในการช่วยรักษาสุขภาพของผนังเซลล์ให้มีความแข็งแรงมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม ทำให้น้ำสามารถซึมผ่านเข้าสู่เซลล์ได้ในปริมาณที่เพียงพอกับความต้องการและขจัดของเสียที่เกิดขึ้นในเซลล์ผิวได้อย่าง่ายดายมากขึ้น ส่งผลให้ผิวดูมีสุขภาพที่ดีมากขึ้น มีความชุ่มชื้น ไม่แห้งหยาบกร้าน ช่วยรักษาสิว ลดเลือนริ้วรอยและเพิ่มความยืดหยุ่นกับผิวที่มากขึ้น

5. เซรั่มวิตามินซีที่มีส่วนผสมของไฮยาลูโรนิก

            ไฮยาลูโรนิก เป็นสารที่ร่างกายสามารถสกัดขึ้นมาได้เองตามธรรมชาติ เป็นที่รู้จักกันดีในฐานะของมอยเจอร์ไรเซอร์ตามธรรมชาติที่มีประสิทธิภาพสูงอย่างมาก หลังจากนั้นจะค่อย ๆ หายไปเองตามอายุที่มากขึ้น ทำให้การเลือกใช้เซรั่มวิตามินซีที่มีไฮยาลูโรนิกเป็นส่วนผสมจะสามารถช่วยให้ผิวมีความชุ่มชื้น เหมือนกับผิวของวัยรุ่น

6. เซรั่มวิตามินซีที่มีส่วนผสมของเปปไทด์

            เปปไทด์ คือ กรดอะมิโนที่เป็นส่วนหนึ่งของโปรตีน Acetyl hexapeptide, palmitoyl pentapeptide และ palmitoyl oligopeptide เมื่อเปปไทด์ถูกดูดซับเข้าสู่ชั้นผิวหนัง ก็จะทำหน้าที่ในการช่วยลดเลือนริ้วรอยให้น้อยลง ด้วยการกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนและปกป้องผิวจากการถูกทำลายโดยรังสี UV จากดวงอาทิตย์ที่แรงกล้าในตอนกลางวัน

ข้อควรระมัดระวังในการเลือกเซรั่ม Vitamin C โดยอ้างอิงรีวิวจากอินเทอร์เน็ต หรือชาว Pantip!

            การเลือกเซรั่ม Vitamin C สักชิ้นมาใช้งานนั้น ขอแนะนำว่าควรตระหนักเอาไว้เสมอว่าสภาพผิวของคนเราทุกคนไม่เหมือนกัน ดังนั้น ต่อให้รีวิวแนะนำผลิตภัณฑ์เหล่านั้นจะเป็นบุคคลที่มีความน่าเชื่อถือหรือโด่งดังมากขนาดไหนใน Pantip ก็ต้องเข้าใจว่าเซรั่ม Vitamin C “ทุกสูตร ไม่ได้เหมาะกับทุกคน”

            เซรั่ม Vitamin C ที่ผู้รีวิวหยิบยกมาพูดถึงนั้น อาจจะสามารถใช้ได้ผลจริงกับผู้รีวิว แต่มันก็อาจใช้ไม่ได้ผลกับตัวคุณหรือให้ผลลัพธ์ที่เลวร้ายมากขึ้นกว่าเดิม เพราะเป็นการเลือกใช้เซรั่ม Vitamin C โดยอ้างอิงจากคำรีวิว โดยที่ไม่ได้เลือกสูตรที่เหมาะกับตัวเอง

รีวิว เซรั่ม vit c

#รีวิว 5 เซรั่มวิตามินซี ที่มีประสิทธิภาพน่าสนใจมากที่สุดในปี 2021

         หลังจากที่ได้ทราบเกี่ยวกับหลักการและวิธีการเลือกเซรั่มวิตามินซีที่น่าสนใจกันไปแล้วในหัวข้อข้างต้น คราวนี้ลองมาทำความรู้จักกับเซรั่มวิตามินซีที่น่าสนใจที่สุดในปี 2021 โดยเรียงลำดับจากเซรั่มวิตามินซีที่น่าสนใจมากที่สุดกันดีกว่า มีผลิตภัณฑ์ใดที่เหมาะกับคุณผู้อ่านมากที่สุดกัน

เซรั่มวิตามินซีที่น่าสนใจอยากรีวิว อันดับที่ #1 Vita C Brightening Ampoule

จุดเด่นของเซรั่มวิตามินซี Vita C Brightening Ampoule

  • เซรั่มวิตามินซี Vita C Brightening Ampoule ปกป้องและช่วยลดเลือนริ้วรอย ฝ้า กระ ผิวหมองคล้ำและจุดด่างดำ
  • เซรั่มวิตามินซี Vita C Brightening Ampoule ปรับสภาพสีผิวให้ขาว สว่างกระจ่างใส
  • เซรั่มวิตามินซี Vita C Brightening Ampoule ลดเลือนรอยแผลเป็นจากสิว
  • เซรั่มวิตามินซี Vita C Brightening Ampoule สูตรพิเศษที่เน้นสารสกัดในการดูแลผิวพรรณอย่างอ่อนโยน
  • เซรั่มวิตามินซี Vita C Brightening Ampoule เพิ่มส่วนผสมของไวท์เทนนิ่งเพื่อช่วยปกป้องผิวจากแสงแดดมากถึง 3 เท่า

เนื้อสัมผัส

เนื้อเซรั่มบางเบา ไม่เหนียวเหนอะหนะ

สภาพผิวที่เหมาะ

ทุกสภาพผิว

ปริมาณ

30 ml.

ราคา (โดยประมาณ)

1,690 บาท

เซรั่มวิตซี

เซรั่มวิตามินซีที่น่าสนใจอยากรีวิว อันดับที่ #2 ครีมเซรั่มวิตามินซี รพ.ยันฮี

จุดเด่นของเซรั่มวิตามินซี ครีมเซรั่มวิตามินซี รพ.ยันฮี

  • ครีมเซรั่มวิตามินซี รพ.ยันฮี ช่วยทำให้ผิวสวยมีออร่า
  • ครีมเซรั่มวิตามินซี รพ.ยันฮี ช่วยบำรุงผิวให้มีความกระจ่างใสมากขึ้น
  • ครีมเซรั่มวิตามินซี รพ.ยันฮี ช่วยลดเลือนจุดด่างดำ รอยหมองคล้ำสะสมบนผิว
  • ครีมเซรั่มวิตามินซี รพ.ยันฮี ช่วยทำให้ผิวนุ่มชุ่มชื้นและความอิ่มเอิบ
  • ครีมเซรั่มวิตามินซี รพ.ยันฮี ช่วยทำให้สีผิวดูเรียบเนียนสม่ำเสมอมากขึ้นกว่าเดิม

เนื้อสัมผัส

เนื้อเซรั่มสีใส ไม่มีกลิ่น ไม่เหนียวเหนอะหนะ

สภาพผิวที่เหมาะ

ผิวหมองคล้ำ

ปริมาณ

20 ml.

ราคา (โดยประมาณ)

129 บาท

เซรั่มวิตซียันฮี

เซรั่มวิตามินซีที่น่าสนใจอยากรีวิว อันดับที่ #3 Natural Power C Miracle Advanced Brightening Serum (Oriental Princess)

จุดเด่นของเซรั่มวิตามินซี Natural Power C Miracle Advanced Brightening Serum (Oriental Princess)

  • เซรั่มวิตามินซี Oriental Princess สูตรเข้มข้นที่มีอนุพันธ์ของวิตามินบริสุทธิ์แท้ 100%
  • เซรั่มวิตามินซี Oriental Princess ช่วยปรับสภาพผิวพรรณให้กระจ่างใสขึ้นอย่างรวดเร็ว
  • เซรั่มวิตามินซี Oriental Princess ช่วยลดเลือนจุดด่างดำ ปรับสภาพโทนสีผิวให้ดียิ่งขึ้น
  • เซรั่มวิตามินซี Oriental Princess ไม่ทำให้เกิดอาการระคายเคืองต่อผิว
  • เซรั่มวิตามินซี Oriental Princess ช่วยป้องกันการเกิดปัญหาสิวขึ้นในอนาคต
  • เซรั่มวิตามินซี Oriental Princess ช่วยทำให้ผิวพรรณมีความเรียบเนียน กระจ่างใสมากขึ้น

เนื้อสัมผัส

เนื้อเซรั่มใส กลิ่นส้ม

สภาพผิวที่เหมาะ

ทุกสภาพผิว

ปริมาณ

30 ml.

ราคา (โดยประมาณ)

895 บาท

Natural Power C

เซรั่มวิตามินซีที่น่าสนใจอยากรีวิว อันดับที่ #4 AquaPlus Enriched-C Serum 15 ml.

จุดเด่นของเซรั่มวิตามินซี AquaPlus Enriched-C Serum 15 ml.

  • เซรั่มวิตามินซี AquaPlus Enriched-C Serum มีปริมาณวิตามินซีเข้มข้นถึง 15 มิลลิกรัม
  • เซรั่มวิตามินซี AquaPlus Enriched-C Serum ช่วยฟื้นฟูยกกระชับผิว เพิ่มความกระจ่างสดใส
  • เซรั่มวิตามินซี AquaPlus Enriched-C Serum ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวพรรณยาวนาน 24 ชั่วโมง
  • เซรั่มวิตามินซี AquaPlus Enriched-C Serum เนื้อเซรั่มสามารถซึมซาบสู่ชั้นผิวได้ในทันที

เนื้อสัมผัส

เซรั่มเนื้อใส

สภาพผิวที่เหมาะ

ทุกสภาพผิว

ปริมาณ

15 ml.

ราคา (โดยประมาณ)

1,710 บาท

เซรั่มวิตซี aquaplus

เซรั่มวิตามินซีที่น่าสนใจอยากรีวิว อันดับที่ #5 Powerful-Strength Line-Reducing Concentrate (Kiehl’s)

จุดเด่นของเซรั่มวิตามินซี Powerful-Strength Line-Reducing Concentrate (Kiehl’s)

  • เซรั่มวิตามินซี Powerful-Strength Line-Reducing Concentrate (Kiehl’s) ผ่านการทดสอบทางคลินิก ในการช่วยลดเลือนริ้วรอยและช่วยทำให้ผิวพรรณดูเปล่งปลั่งมากยิ่งขึ้น
  • เซรั่มวิตามินซี Powerful-Strength Line-Reducing Concentrate (Kiehl’s) ช่วยผลัดเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพตามธรรมชาติให้ดียิ่งขึ้น
  • เซรั่มวิตามินซี Powerful-Strength Line-Reducing Concentrate (Kiehl’s) ช่วยป้องกันการเกิดอนุมูลอิสระในชั้นผิว
  • เซรั่มวิตามินซี Powerful-Strength Line-Reducing Concentrate (Kiehl’s) มีปริมาณความเข้มข้นของวิตามินซีมากถึง 12.5%

เนื้อสัมผัส

เซรั่นเนื้อใส บางเบา ไม่ทิ้งความมันบนผิวและมีกลิ่นหอมสดชื่น

สภาพผิวที่เหมาะ

ทุกสภาพผิว

ปริมาณ

50 ml.

ราคา (โดยประมาณ)

3,200 บาท

Powerful Strength Line Reducing Concentrate

5 เคล็ดลับใช้เซรั่มวิตามินซีอย่างไรให้เกิดประสิทธิภาพในการบำรุงผิวพรรณมากที่สุด

            เพื่อให้ผิวพรรณได้รับการบำรุง ดูแลรักษาอย่างมีประสิทธิภาพและสามารถเห็นผลลัพธ์ของผิวที่สวยงามเปล่งประกายอย่างรวดเร็วมากที่สุด ขอแนะนำว่าควรทำตามขั้นตอนวิธีการใช้เซรั่ม ดังต่อไปนี้

1. วิธีใช้เซรั่มวิตามินซีบำรุงผิวอย่างถูกต้อง: ล้างหน้าด้วยน้ำอุ่น

 เพื่อเป็นการกระตุ้นให้รูขุมขนบนใบหน้าเกิดการคลายตัวเปิดออก ทำให้การชำระล้างคราบสิ่งสกปรกที่อยู่ในรูขุมขนและใบหน้าเป็นไปได้อย่างง่ายดายมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม หรือถ้าหากใครอยากที่จะเพิ่มความสะอาดให้ล้ำลึกมากยิ่งขึ้น อาจใช้ แผ่นมาส์กหน้า  Sleeping Mask ช่วยทำความสะอาดอีกครั้งหนึ่งหลังจากทำการล้างหน้าด้วยน้ำอุ่นก็ได้เช่นกัน

2. วิธีใช้เซรั่มวิตามินซีบำรุงผิวอย่างถูกต้อง: ใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวพรรณ

ทำความสะอาดผิวหน้าด้วยผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่เหมาะสมกับสภาพผิวของตัวเองให้สะอาดหมดจด เช่น โฟมล้างหน้าลดสิว เป็นต้น เพื่อเป็นการช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของการใช้เซรั่มวิตามินซีให้มากยิ่งขึ้นกว่าเดิม

3. วิธีใช้เซรั่มวิตามินซีบำรุงผิวอย่างถูกต้อง: ใช้เนื้อเซรั่มในปริมาณที่เหมาะสม

            สำหรับปริมาณของเนื้อเซรั่มที่เหมาะสมสำหรับใช้ในการบำรุงผิวพรรณคือ ปริมาณประมาณเท่ากับหนึ่งเหรียญบาท ซึ่งถือว่าเป็นปริมาณที่ไม่มาก-ไม่น้อยจนเกินไป และควรทำการวอร์มเนื้อเซรั่มวิตามินซีบนฝ่ามือเล็กน้อยเพื่อให้เนื้อครีมกับส่วนผสมมีการแตกตัว เพิ่มประสิทธิภาพในการบำรุงก่อนทาลงบนผิวพรรณ

4. วิธีใช้เซรั่มวิตามินซีบำรุงผิวอย่างถูกต้อง: นวดเนื้อเซรั่มอย่างแผ่วเบา

            ทำการทาแตะเนื้อเซรั่มวิตามินซีลงบนผิวหน้าบริเวณหน้าฝาก สองแก้ม จมูก หางคิ้วและคาง จากนั้นให้นวดเนื้อเซรั่มอย่างเบามือในลักษณะวงกลมให้ทั่วใบหน้าไปจนจรดลำคอเป็นเวลานานประมาณหนึ่งนาที หากต้องการบำรุงผิวในขั้นตอนต่อไปขอแนะนำว่าควรทิ้งระยะหางประมาณ 3 นาที เพื่อให้เนื้อเซรั่มวิตามินซีซึมซาบลงสู่ผิวชั้นลึกเป็นที่เรียบร้อยเสียก่อน

5. วิธีใช้เซรั่มวิตามินซีบำรุงผิวอย่างถูกต้อง: ควรใช้เป็นประจำทั้งเช้า-เย็น

            การใช้เซรั่มวิตามินซี ควรใช้อย่างสม่ำเสมอต่อเนื่องเป็นประจำในตอนเช้า-ตอนเย็น เพื่อให้เซรั่มวิตามินซีมีการบำรุงผิวพรรณอย่างต่อเนื่องและสามารถเห็นผลลัพธ์ได้อย่างรวดเร็วมากที่สุดนั่นเอง

รีวิว เซรั่มวิตามิน ซี

วิธีการทําเซรั่มวิตามินซีใช้ด้วยตัวเอง

            สำหรับคนที่คิดว่าเซรั่มวิตามินซีที่วางจำหน่ายอยู่ในท้องตลาดอาจจะมีราคาที่ค่อนข้างสูงไปสักหน่อย จึงอยากที่จะประหยัดเงินในกระเป๋าก็สามารถ D.I.Y. ทำเซรั่มวิตามินซี ขึ้นมาใช้งานด้วยตัวเองได้เช่นกัน โดยผู้เขียนมีสูตรวิธีการทำเซรั่มวิตามินซีใช้เองอย่างง่ายดายมาฝากกันถึงสองสูตร ส่วนจะมีส่วนผสมอะไรกันบ้างนั้น มาติดตามอ่านกันเลย

1. สูตรวิธีการทำเซรั่มวิตามินซีแบบง่ายดายด้วยตัวเอง : วิตามินซี + ว่านหางจระเข้+น้ำมันมะพร้าว

ส่วนผสมของเซรั่มวิตามินซีทำเอง

  • วิตามินซีชนิดเม็ด ขนาด 500 มิลลิกรัม
  • เจลว่านหางจระเข้ 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมันมะพร้าว 1 ช้อนชา
  • วิตามินอีชนิดน้ำมัน 1 แคปซูล

ขั้นตอนในการทำเซรั่มวิตามินซีด้วยตัวเอง

            ทำการบดวิตามินซีแบบเม็ดให้กลายเป็นผงละเอียด จากนั้นผสมเข้ากับน้ำมันมะพร้าวให้ละลายเป็นเนื้อเดียวกัน หลังจากนั้นค่อยทำการเติมส่วนผสมที่เหลือทั้งหมดลงไปคนให้กลายเป็นเนื้อเดียวกันจนกระทั่งกลายเป็นเนื้อเซรั่มเหลว เมื่อได้ที่แล้วให้เก็บใส่ภาชนะปิดสนิทและเก็บรักษาเอาไว้ในตู้เย็น

2. สูตรวิธีการทำเซรั่มวิตามินซีแบบง่ายดายด้วยตัวเอง :

ส่วนผสมของเซรั่มวิตามินซีทำเอง

  • L-Ascorbic acid powder (หาซื้อได้ที่ร้านขายอาหารเสริมทั่วไป) จำนวน ¼ ช้อนชา
  • น้ำกลั่น
  • เบกกิ้งโซดา
  • กระดาษทดสอบค่า pH

ขั้นตอนในการทำเซรั่มวิตามินซีด้วยตัวเอง

            เทน้ำกลั่นออกจากขวดให้เหลือประมาณครึ่งหนึ่ง จากนั้นเติม L-Ascorbic acid powder ลงไปในขวดน้ำกลั่น ปิดฝาแล้วทำการเขย่าจนกระทั่งผงละลายจนหมด แล้วค่อยทำการเติมน้ำกลั่นส่วนที่เหลือเข้าไปใหม่อีกครั้ง แล้วเขย่าอีกครั้งจนเข้ากัน

            น้ำกลั่นมาหยดลงบนกระดาษทดสอบค่า pH โดยให้ค่าอยู่ที่ประมาณ 3.5 ถ้าหากค่า pH ยังไม่อยู่ในระดับที่ต้องการให้ใส่เบกกิ้งโซดาใส่ลงในน้ำทีละน้อยและเขย่าอีกครั้ง หลังจากนั้นทำซ้ำไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งได้ค่าตามที่ต้องการจึงค่อยทำเก็บส่วนผสมของเซรั่มเอาไว้ในขวดปิดทึบป้องกันแสงและเก็บเอาไว้ในสถานที่ ที่แสงแดดส่องไม่ถึง

ข้อดีของการทำเซรั่มวิตามินซีใช้ด้วยตัวเอง

            สำหรับการทำเซรั่มวิตามินซีใช้ด้วยตัวเอง มีข้อดีหลายประการที่น่าสนใจ ดังต่อไปนี้

  • การทำเซรั่มวิตามินซีใช้ด้วยตัวเอง วัตถุดิบทั้งหมดสามารถหาซื้อได้ง่ายและมีราคาไม่แพง
  • การทำเซรั่มวิตามินซีใช้ด้วยตัวเอง ใช้เวลาทำไม่นานเพียงประมาณ 5 นาที โดยไม่จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์พิเศษ
  • การทำเซรั่มวิตามินซีใช้ด้วยตัวเอง สามารถปรับปริมาณของวิตามินซีได้ด้วยตัวเอง
  • การทำเซรั่มวิตามินซี ราคาประหยัดจนสามารถนำไปใช้ในการบำรุงผิวพรรณส่วนอื่นของร่างกายนอกเหนือจากใบหน้าได้ โดยที่ไม่ต้องรู้สึกเสียดายเซรั่มวิตามินซีราคาแพง

ข้อควรระมัดระวังในการทำเซรั่มวิตามินซีใช้ด้วยตัวเอง

            ถึงแม้ว่าวิธีการทำเซรั่มวิตามินซีใช้ด้วยตัวเองจะมีข้อดีหลากหลายประการ แต่ในขณะเดียวกันก็มีข้อเสียบางประการที่ควรทราบเพื่อประกอบการตัดสินใจว่าควรทำเซรั่มวิตามินซีใช้เองดีหรือเปล่า!? ดังต่อไปนี้

  • การทำเซรั่มวิตามินซีใช้เอง ต้องระมัดระวังความเป็นกรดมากเป็นพิเศษ เพราะหากความเข้มข้นของวิตามินซีสูงมากจนเกินไปก็อาจทำให้ผิวพรรณถูกเผาไหม้หรือระคายเคืองได้เช่นกัน

การทำเซรั่มวิตามินซีใช้ด้วยตัวเอง เนื่องจากไม่มีส่วนผสมของวัตถุกันเสีย ทำให้อายุการเก็บรักษาเอาไว้ใช้งานจะค่อนข้างสั้นราวประมาณ 2 สัปดาห์ เท่านั้น

วิธีทําเซรั่มวิตามินซี

บทสรุปส่งท้าย : วิตามินซีและเซรั่ม Vitamin C เลือกใช้งานให้ถูก รับรองช่วยบำรุงสุขภาพและความงามได้อย่างที่ใจต้องการแน่นอน!

            หลังจากที่ได้รับทราบข้อมูลที่น่าสนใจทั้งวิตามินซีที่ต้องทานเข้าสู่ร่างกายเพื่อนำไปใช้ในการบำรุงสุขภาพ และเซรั่มวิตามินซี [Vitamin C] สำหรับใช้ในการทาเพื่อบำรุงผิวพรรณภายนอกแล้ว

            หวังว่าบทความชิ้นนี้ ก็คงจะช่วยให้หลายคนก็คงจะเริ่มมองเห็นรูปแบบการนำวิตามินซีไปใช้ประโยชน์กันแบบเต็มประสิทธิภาพ และสลายม่านหมอกแห่งความสงสัยในเรื่องของการใช้งานได้มากยิ่งขึ้นกว่าที่ผ่านมากันอย่างแน่นอน…

เรื่องน่ารู้อื่นๆ