ตามมาจากรีวิว pantip เรามาทำความรู้จักกันว่า เอสเซ้นส์ (Essence) คืออะไร?

“เอสเซ้นส์” หรือที่เรารู้จักกันในชื่อง่ายๆ ว่า “น้ำตบ” มีหน้าที่หลักในการเพิ่มความชุ่มชื่นให้ผิวรู้สึกสดชื่น เติมความฉ่ำให้ผิวดูอิ่มน้ำมากขึ้น ส่วนหน้าที่รองคือได้จากส่วนผสมที่ใช้ในการผลิตเอสเซนซ์ ไม่ว่าจะเป็นการช่วยลดเลือนริ้วรอย เสริมความแข็งแรง ปลอบประโลมผิวในวันที่ผิวอ่อนล้าหรือรู้สึกไม่แข็งแรง เนื้อสัมผัสของ เอสเซนส์ จะค่อนข้างมีความเหนียวข้นกว่าโทนเนอร์ แต่จะไม่หนักเท่าเซรั่มหรือเฟซออยล์ จึงสามารถใช้ได้ทุกสภาพผิว แนะนำให้เพิ่มไอเท็มเข้าไปในรูทีนจะทำให้ผิวเราเปล่งปลั่งมากขึ้น

เอสเซ้นส์ (Essence) คืออะไร?

เอสเซ้นส์เป็นตัวบำรุงผิวจากภายใน ออกแบบมาเพื่อเน้นการบำรุงที่ล้ำลึกเข้าไปถึงชั้นผิวเพื่อฟื้นฟูให้ผิวสุขภาพดีออกมาจากภายในเลยทีเดียว มักมีส่วนผสมเป็นของ Water-Base ทำให้เนื้อสัมผัสบางเบา ซึมซาบเร็ว ไม่เหนอะหนะ เหมาะอย่างมากกับผู้ที่แพ้สารตระกูลน้ำมัน

เนื้อสัมผัส : เบา

ลำดับการใช้ : หลังโทนเนอร์หรือใช้แทนโทนเนอร์

เหมาะกับ : ทุกสภาพผิว

จุดเด่น : กระตุ้นและบำรุงผิวจากภายใน เป็น Water-Base ซึมซาบเร็ว

เอสเซนส์ ต่างจาก โทนเนอร์ ยังไง?

โทนเนอร์ ใช้เพื่อขจัดสิ่งสกปรกต่างๆ เช่น น้ำมันส่วนเกินบนใบหน้า ฝุ่นละออง หรือ คราบเครื่องสำอางที่ตกค้างบนใบหน้า หลังจากการทำความสะอาดด้วยคลีนซิ่ง หรือโฟมล้างหน้า  ขณะที่เอสเซนส์เป็นขั้นแรกของการบำรุงปรับสมดุลผิวทันทีและมีส่วนผสมระดับสูงกว่าซึ่งออกแบบมาเพื่อนำพาส่วนผสมซึมซาบลงไปในชั้นผิวที่ลึกได้ดียิ่งขึ้น

เอสเซ้นส์ ต่างจาก เซรั่ม อย่างไร?

จริงๆ เอสเซนส์กับเซรั่มแทบจะไม่ต่างกัน เดิมทีเอสเซนส์มีความเข้มข้นน้อยกว่าเซรั่มและเนื้อสัมผัสบางเบากว่า ใช้ทาหลังหรือใช้แทนโทนเนอร์แล้วทาเซรั่มลงไป  ทั้งเอสเซนซ์และเซรั่มต่างก็มีส่วนผสมที่เข้มข้น แม้เอสเซนส์จะช่วยเรื่องความชุ่มชื่นน้อยกว่า แต่สาวๆโซนเอเชียกลับนิยมใช้เอสเซนส์เป็นอย่างมาก ในขณะที่  สาวๆ ทางฝั่งตะวันตกคุ้นเคยกับคำว่าเซรั่ม มันคือสิ่งเดียวกันที่มีความต่างตรงเนื้อสัมผัส เอสเซนส์มักจะบรรจุมาในขวดหยด(dropper)

เอสเซ้นส์ ใช้อย่างไร?

เอสเซนส์แบบไหนดีที่สุดสำหรับคุณ? ยี่ห้อไหน? ถูกและดี?

เซรั่ม VS เอสเซนส์ ของดีที่ต้องเลือกให้เหมาะกับผิวหน้า

เซรั่ม เอสเซ้นส์ เปิดประตูสู่การบำรุง

ทั้งเซรั่ม และเอสเซนส์คือขั้นตอนแรกของการบำรุงผิวหน้า โดยทั้งคู่มีหน้าที่ที่เหมือนกัน คือเพื่อการบำรุงที่ลึกถึงผิวชั้นใน โดยมีคุณสมบัติที่ซึมเร็ว และช่วยให้การบำรุงในขั้นตอนอื่นๆ ซึมลึกมากขึ้น โดยส่วนมากแล้วคุณสมบัติหลักของสองสิ่งนี้ก็เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว ซึ่งก็ทำให้ผิวสามารถซึมซับสารพัดครีมได้ดีขึ้นนั่นแหละ

แต่ทั้งคู่ไม่ควรใช้ด้วยกัน!

ใช่แล้ว ทั้งสองตัวเป็นขั้นตอนแรกของการบำรุง และก็ควรเลือกใช้แค่อย่างใดอย่างหนึ่ง เพราะหากใช้คู่กัน บอกเลยว่า สิวอุดตันถามหาแน่ๆ จร้า ส่วนใครเหมาะจะใช้อะไร เราจะบอกให้

เซรั่ม

เซรั่มส่วนใหญ่แล้วมักมีเนื้อเป็นน้ำมัน จึงมีส่วนผสมที่เข้มข้นมากกว่าเอสเซนส์ เห็นผลได้ไวกว่าเอสเซนส์ แต่ก็มีข้อจำกัดเฉพาะเหมือนกัน นั่นคือไม่เหมาะกับคนที่ผิวหน้ามัน และผิวหน้าบอบบาง เพราะจะยิ่งเพิ่มความมันให้กับผิวหน้า และเกิดโอกาสแพ้ได้ง่ายกว่า จึงเหมาะกับสาวผิวแห้ง และผิวธรรมดา รวมถึงผู้ที่ต้องการเห็นผลอย่างเร่งด่วน

เอสเซนส์

มีชื่อเล่นที่นิยมเรียกกันอีกชื่อก็คือ  “น้ำตบ” ใช่แล้ว เอสเซนส์มักมาในลักษณะของน้ำเหลวๆ แต่ก็มีบ้างเหมือนกันที่มาเป็นเนื้อเจลใส อย่างที่บอกว่าเอสเซนส์มีลักษณะเป็นน้ำ ส่วนผสมจึงไม่เข้มข้นเท่าเซรั่ม ผลลัพธ์ก็จะเห็นได้ช้ากว่า แต่ก็ซึมเข้าสู่ผิวได้เร็วกว่า ไม่ทิ้งความเหนอะหนะไว้บนผิว ยิ่งถ้าแช่เย็นแล้วเอามาตบเบาๆ ที่ผิวหน้า จะยิ่งรู้สึกได้ถึงความสดชื่นของผิวเลยละ จึงเหมาะกับสาวผิวมัน และสาวผิวบอบบาง

ลำดับการบำรุงผิว เพื่อความสวยเป๊ะขั้นสุด

• โทนเนอร์ เช็ดทำความสะอาดผิว และเปิดรูขุมขนเตรียมพร้อมสำหรับการบำรุงผิว
• เซรั่ม/เอสเซนส์ ทาเพื่อบำรุงผิวอย่างล้ำลึก โดยเลือกให้เหมาะกับผิวหน้า
• อายครีม ทาบริเวณรอบๆ ดวงตา ซึ่งเป็นบริเวณที่บอบาง และช่วยลดความหมองคล้ำรอบๆ ดวงตาด้วย
• ครีมรักษาปัญหาผิว ไม่ว่าจะเป็นครีมลดเลือนริ้วรอย หรือครีมลดเลือนจุดด่างดำ
• มอยเจอร์ไรเซอร์ ที่ให้ความชุ่มชื้นกับผิว เป็นการกักเก็บน้ำไว้ในผิวหน้า เพื่อให้ผิวหน้าใส นุ่มเด้ง