ปกป้องผิวหน้าจากแสงสีฟ้าจากโทรศัพท์ ทำผิวหน้าหมองคล้ำ ตัวการทำหน้าแก่ก่อนวัย ด้วยการทาครีมกันแดด

สารบัญ

• แสงสีฟ้าคืออะไร ?
• ความแตกต่างของค่า SPF กับค่า PA
• วิธีการเลือกครีมกันแดดทาหน้า
• เลือกครีมกันแดดทาหน้าจากค่า SPF และ PA
• วิธีการทาครีมกันแดดทาหน้าที่ถูกต้อง
• บทสรุป 5 วิธีการเลือกซื้อครีมกันแดดทาหน้า ยังไงให้ต๊าซซซ

สามารถดูสินค้าจริงได้ที่ Euphoria Thailand ทุกสาขา

ในช่วงล๊อกดาวน์ที่คนส่วนใหญ่ต้อง Work From Home นั่งทำงานอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ หรือหน้าจอโทรศัพท์มือถือ ออนไลน์ ส่งผลให้หลายคนละเลยการดูแลผิวหน้า ไม่ทาครีมกันแดด!! เพราะคิดว่าไม่ได้เจอกับแสงแดดโดยตรง

นอกจาก UVA และ UVB จากแสงอาทิตย์แล้ว [แสงสีฟ้า] Blue Light จากทั้งแสงแดดและแสงจากหน้าจอ ก็เป็นตัวการทำร้ายผิวก่อให้เกิดริ้วรอยก่อนวัย

แต่ใครบ้างจะรู้ว่าแม้จะอยู่ภายในบ้าน ผิวของเราก็โดนทำร้ายด้วยแสงสีฟ้าจากโทรศัพท์และหน้าจอคอมพิวเตอร์ จนรู้ตัวอีกทีเกราะป้องกันผิวก็อ่อนแอ ผิวหน้าดูโทรม หมองคล้ำ แก่ก่อนวัย วันนี้เราจะมาทำความรู้จักแสงสีฟ้า อีกหนึ่งสาเหตุของการเกิดปัญหาผิวต่างๆ กัน

แสงสีฟ้าคืออะไร ?

แสงสีฟ้า หรือ Blue Light มีชื่อเต็มว่า High Energy Visible Light (HEV หรือ HEVIS Light) คือ คลื่นแสงที่มีพลังงานสูง ความยาวคลื่น 380 ถึง 500 นาโนเมตร มีอยู่ในแสงอาทิตย์และแสงจากหน้าจออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ในปี 2019 ที่ผ่านมานี้ คนไทยใช้เวลาท่องโลกอินเทอร์เน็ตในทุกอุปกรณ์เฉลี่ย 9 ชั่วโมงต่อวัน! เราจึงได้รับแสงสีฟ้าจากหน้าจอมากขึ้นเรื่อยๆ แถมใกล้ผิวหน้าอีกด้วยนะคะ โดยเแสงสีฟ้ามีจุดกำเนิดมาจาก 

• ดวงอาทิตย์ มีปริมาณของแสงที่มีความเข้มมากที่สุด
• อุปกรณ์ให้แสงสว่างต่างๆ โดยเฉพาะจากหลอด LED เช่น หลอดไฟ LED ตามบ้านเรือน ไฟหน้ารถและท้ายรถ  และอุปกรณ์ดิจิตอล เช่น นาฬิกา Smart Watch จอโทรทัศน์ จอคอมพิวเตอร์ จอโน้ตบุ๊ก จอโทรศัพท์ จอแท็บเล็ต

อ่านเพิ่มเติมเรื่อง : [เคล็ดลับ] มาตำวิธีป้องกันอันตรายจากแสงแดดก่อนสายเกินไป

Blue Light ทำร้ายผิวอย่างไร?

การที่ผิวได้รับแสงสีฟ้าที่มากจนเกินไป อาจส่งผลให้เกิดอาการบวม แดง สีผิวไม่สม่ำเสมอ เกิดฝ้าและรอยดำจากสิวที่ชัดขึ้นบริเวณกรอบหน้า (เมื่อเวลาเราแนบหูกับสมาร์ทโฟน) และอาจถึงขั้นทำลายคอลลาเจนและอีลาสตินในผิว ส่งผลให้ผิวหย่อนคล้อย เกิดริ้วรอยก่อนวัย

มีงานวิจัยพบว่า ในตอนกลางคืนแสงสีฟ้าจะไปรบกวนวงจรนาฬิกาในร่างกายของเรา การฟื้นฟูผิวตามธรรมชาติในตอนกลางคืนจึงถูกรบกวน นอกจากจะส่งผลต่อผิวเสื่อมสภาพก่อนวัยแล้ว แสงสีฟ้ายังส่งผลต่อดวงตา และคุณภาพการนอนหลับอีกด้วยนะคะ 

อย่างไรก็ตาม ใช่ว่าแสงสีฟ้าจะมีโทษเพียงอย่างเดียว เพราะในบางกรณี แพทย์ผิวหนังก็ใช้แสงสีฟ้าในการทำเลเซอร์ทรีตเมนต์เพื่อรักษาสิวด้วย

ปกป้องผิวจาก Blue Light 

ทุกวันนี้มองทั้งหน้าจอมือถือ แท็บเบล็ต คอมพิวเตอร์ ฯลฯ เราทุกคนจะเริ่มปกป้องผิวจาก Blue Light ได้ง่ายๆ ด้วยการลดเวลาอยู่กับหน้าจอ (screen time) ให้น้อยลง, ปรับแสงหน้าจอไม่ให้สว่างมากจนเกินไป และตัวช่วยง่ายๆ ก็เห็นจะเป็น “ครีมกันแดด“ นี่แหละค่ะ เพราะ Zinc Oxide และ Titanium Dioxide ที่เป็นส่วนผสมอยู่นั้น จะช่วยป้องกันแสงสีฟ้า ทั้งจากแสงแดดและแสงจากหน้าจอ

ช่วยปกป้องผิวจากแสงแดดและมลภาวะ, รังสี UVA, รังสี UVB, Visible Light, แสงสีฟ้าจากหน้าจอ, IR ให้ผิวสวยสู้ทุกคลื่นแสง ใช้เป็นประจำทุกเช้า บอกลาหน้าแก่ก่อนวัยไปได้เลยค่ะ

สามารถดูสินค้าจริงได้ที่ Euphoria Thailand ทุกสาขา

ปัญหาผิวที่มาจากการโดนแสงสีฟ้าทำร้ายผิว

• ฝ้า กระ จุดด่างดำ แสงสีฟ้าเป็นคลื่นแสงที่เหมือน UVA/B จึงทำให้ผิวเกิดฝ้า กระ จุดด่างดำได้ไม่แพ้แสงแดด แถมยังกระตุ้นให้เกิดการอักเสบ กระตุ้นการสร้างเม็ดสีเมลานินในผิวมากขึ้น จึงทำให้เกิดฝ้า กระ จุดด่างดำ
• ริ้วรอย ผิวเหี่ยวย่น แสงสีฟ้าคือปัจจัยหนึ่งที่กระตุ้นให้เกิดภาวะเครียดออกซิเดชัน (Oxidation Stress) ทำให้ร่างกายมีอนุมูลอิสระ (Free Radical) มากเกินไปจนเข้าสู่ภาวะไม่สมดุลกับสารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant) ซึ่งกระตุ้นให้เกิดการสร้างเอนไซม์ที่ทำลายคอลลาเจนและอีลาสตินในชั้นผิว ส่งผลให้เซลล์ผิวเสื่อมสภาพเร็วกว่าปกติ ทำให้ผิวขาดความชุ่มชื้น หย่อนคล้อย เกิดริ้วรอยได้ง่ายและผิวดูแก่กว่าวัย
• ผิวแห้ง หน้าหมองคล้ำ เพราะคอลลาเจนถูกทำร้าย ความชุ่มชื้นภายในชั้นผิวก็ลดลง
• ผิวแพ้ง่าย เกราะปกป้องผิวอ่อนแอ มีการศึกษาวิจัยพบว่าแสงสีฟ้าจะรบกวนวงจรนาฬิกาชีวิต ทำให้ผิวทำงานผิดปกติไปจากที่ควรจะเป็น เนื่องจากแสงสีฟ้าเป็นตัวการทำให้เกิดการรับรู้ที่ผิดไปว่าขณะนั้นเป็นเวลากลางวันทำให้ระบบการฟื้นฟูทำงานผิดปกติ ส่งผลต่อเกราะป้องกัน ทำให้ผิวอ่อนแอ แพ้ง่าย

วิธีรับมือปัญหาผิวเสียจากแสงสีฟ้า

เราได้ทราบแล้วว่าการใช้ชีวิตอยู่กับหน้าจอ เปิดรับแสงสีฟ้าตลอดเวลา เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ใบหน้าเหี่ยวย่น หมองคล้ำได้ง่ายขึ้น วิธีหลีกเลี่ยงแสงสีฟ้าที่ดีที่สุดคือ ลดการใช้อุปกรณ์เหล่านี้ให้น้อยลง แต่อีกวิธีหนึ่งที่เราจะปกป้องผิวจากแสงสีฟ้าได้ก็คือการทาครีมกันแดดนั่นเอง ดังนั้นจึงต้องใส่ใจเลือกใช้ครีมกันแดดให้เหมาะสม เพื่อปกป้องผิวและฟื้นบำรุงผิวจากปัญหาผิวต่างๆ ที่มีสาเหตุมาจากแสงสีฟ้า

1. ผิวหมองคล้ำ มีจุดด่างดำ นอกจากเลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่สามารถช่วยลดเลือดจุดด่างดำตามวัยได้แล้ว ขอแนะนำครีมกันแดดที่มีส่วนผสมของสารไทอามิดอล (Thiamidol) ไวท์เทนนิ่งทรงพลัง ลดฝ้าแดด จุดด่างดำ ที่ช่วยให้ผิวกระจ่างใส แก้ปัญหาความหมองคล้ำจากต้นตอได้ด้วย ขอแนะนำ Revitalizing C Brightening Sunscreen 35ml ผลิตภัณฑ์ป้องกันแสงแดดสำหรับผิวหน้า เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวหมองคล้ำ มีจุดด่างดำ ช่วยปกป้องรังสี UVA,UVB และ HEVIS Light เนื้อบางเบา ไม่เหนียวเหนอะหนะ ซึมซาบเร็ว ผ่านการทดสอบว่าไม่อุดตันรูขุมขน ผิวดูกระจ่างใสภายใน 2 สัปดาห์ เมื่อใช้เป็นประจำอย่างต่อเนื่อง

2. ผิวหน้ามัน ต้องเลือกครีมกันแดดที่สามารถคุมมันได้ แนะนำเป็น Revitalizing C Brightening Sunscreen 35ml ครีมกันแดดคุมมัน กันแดดสูตรควบคุมความมันเพื่อผิวมันเป็นสิวง่าย ผสาน 3 ค่าการปกป้องผิว ด้วย SPF50+ PA+++ และ Broad-Spectrum Oxidant Filter ปกป้องรังสี UVA/B พร้อมลดการทำร้ายผิวจากรังสี High Energy Visible Light (HEVIS) 85% จึงลดจุดด่างดำ ฝ้าแดดฝังลึก ผสานคาร์นิทีนช่วยควบคุมความมันระหว่างวันได้ยาวนานถึง 8 ชั่วโมง ช่วยลดโอกาสเกิดสิวอุดตันได้อย่างมีประสิทธิภาพ

3. ผิวบอบบาง แพ้ง่าย ครีมกันแดดที่เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย จะต้องไม่มีส่วนผสมของสารที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองซึ่งอาจก่อให้เกิดอาการแพ้ตามมา และควรมีเนื้อผลิตภัณฑ์ที่ไม่เหนียวเหนอะหนะ ซึมง่าย แนะนำ Revitalizing C Brightening Sunscreen 35ml ที่ผ่านการทดสอบทางการแพทย์ในผิวบอบบาง แพ้ง่ายแล้วว่าไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ ไม่อุดตันรูขุมขน รวมทั้งยังปราศจากสี น้ำหอม และพาราเบน เนื้อฟลูอิดบางเบา ไม่มันวาว เกลี่ยง่าย เป็นเมคอัพเบสได้ดี กันน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพสูง 

สามารถดูสินค้าจริงได้ที่ Euphoria Thailand ทุกสาขา

บทสรุป ปกป้องผิวหน้าจากแสงสีฟ้าจากโทรศัพท์

เห็นไหมว่าไลฟ์สไตล์ชีวิตที่ติดจอจนทำให้สมดุลชีวิตรวน ไม่ได้ทำร้ายแค่สุขภาพเท่านั้น แต่ยังสามารถทำร้ายลึกถึงผิวโดยที่เราไม่รู้ตัว ไม่น้อยไปกว่าการเผชิญแสงแดดระหว่างวันเลย ดังนั้น ไม่ว่าจะออกไปทำกิจกรรมกลางแจ้ง หรือต้อง lock down เก็บตัวอยู่บ้านก็อย่าลืมที่จะปกป้องผิวหน้าด้วยครีมกันแดดที่มีคุณสมบัติในการปกป้องผิวจากแสงฟ้าจากโทรศัพท์และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทั้งหลาย รวมไปถึงลดการใช้งานในช่วงเวลากลางคืน เพื่อปกป้องเกราะป้องกันผิวจากการโดนทำร้าย