สามารถดูสินค้าจริงได้ที่ Euphoria Thailand ทุกสาขา
การดูแลผิวเป็นเรื่องที่สำคัญมากค่ะ หากคุณเป็นคนที่รักและชื่นชอบการดูแลผิวพรรณคุณจะต้องมีสกินแคร์และผลิตภัณฑ์ปรนนิบัติผิวมากมายเต็มไปหมดไม่ว่าจะเป็น สกินแคร์เกาหลี, น้ำตบ, โฟมล้างหน้า รวมไปถึงแผ่นมาสก์ แต่มีผลิตภัณฑ์อีกหนึ่งอย่างที่ช่วยบำรุงผิวได้ล้ำลึกมากกว่าครีมทั่วไป นั่นก็คือเซรั่มค่ะ เซรั่มนั้นไม่ได้มีแค่ประเภทเดียวแต่ยังมีจำแนกออกไปตามความต้องการของผิวไม่ว่าจะเป็น เซรั่มวิตามินซี, เซรั่มคอลลาเจน, เซรั่มกระชับรูขุมขนรวมไปถึง “เซรั่มเรตินอล” หลายคนอาจจะคุ้นเคยกับกับสารสกัดที่เรียกว่าเรตินอลเป็นอย่างดี เพราะมันค่อนข้างมาแรงมาก ๆ ในขณะนี้ เราพูดได้เลยว่าครีมและเซรั่มแทบทุกยี่ห้อมักจะมีสารสกัดนี้ผสมอยู่ด้วยเพื่อปรับปรุงความสมดุลของผิว
เรตินอล (Retinol) เป็นสารสกัดที่มีชื่อเสียงและเป็นที่ยอมรับในเรื่องส่วนผสมของผลิตภัณฑ์ดูแลผิว หากคุณไม่คุ้นเคยกับสารสกัดนี้เราขอบอกเลยว่าเรตินอลเป็นอนุพันธ์ของวิตามิน A ที่มักจะใช้ในการต่อสู้กับสัญญาณแห่งวัย เรตินอลนี้ไม่เพียงแต่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าช่วยลดริ้วรอยและเส้นริ้วเท่านั้น แต่ยังช่วยป้องกันไม่ให้ริ้วรอยเกิดขึ้นอีกด้วย นอกจากประโยชน์ในการต่อต้านริ้วรอยแล้วเรตินอลยังช่วยในเรื่องการดูแลผิวอื่น ๆ อีกมากมายรวมถึงปรับสภาพผิวและรักษาสิว เรตินอลทำงานโดยกระตุ้นให้ผิวสร้างเซลล์ใหม่ ช่วยปรับปรุงความยืดหยุ่นของผิวไว้ได้เป็นอย่างดี แน่นอนค่ะวันนี้เราก็มีคำแนะนำมาฝากกันเพื่อช่วยให้คุณเลือกเซรั่มเรตินอลที่เหมาะสมกับสภาพผิวได้ค่ะ
เรตินอล คืออะไร
ทุกคนอาจจะเคยได้รู้จักวิตามินเอ อย่างไรก็ตามมันจะมีความแตกต่างเล็กน้อยระหว่าง เรตินอล และ เรตินอยด์ เราจะพูดให้ทุกคนเข้าใจได้ง่าย ๆ ว่า เรตินอลเป็นสารในกลุ่มเรตินอยด์ แล้วเรตินอยด์ก็เป็นอนุพันธ์ของวิตามินเออีกที ซึ่งวิตามินเอนี่แหละที่ช่วยกระตุ้นการสร้างเซลล์ และ คอลลาเจน จึงไม่แปลกเลยที่จะเป็นส่วนผสมสุดฮิตที่ใส่ในสกินแคร์หลายตัว
ส่วนสำหรับความเชื่อที่ว่า เรตินอล ยังไม่มีประสิทธิภาพดีพอเมื่อเทียบกับวิตามินเอรูปแบบอื่น ๆ นั้นไม่จริง เพราะแม้ว่าสารบางรูปแบบจะเข้มข้นมากกว่าอย่าง retinoic acid (กรดวิตามินเอ – ไม่นิยมนำมาใส่ในเครื่องสำอางมีความเข้มข้นสูง) แต่เมื่อเรตินอลซึมเข้าชั้นผิวแล้วก็จะเปลี่ยนสภาพตัวเองเป็น retinoic acid อยู่ดี ดังนั้นผลลัพธ์ในการฟื้นฟูริ้วรอยอะไรต่างๆ จึงไม่แตกต่างจากกรดวิตามินเอเลย แถมยังระคายเคืองน้อยกว่าด้วยนะ
เรตินอลทำงานได้ในหลายระดับ เรตินอลส่งเสริมการหมุนเวียนของเซลล์โดยเพิ่มอัตราการผลัดเซลล์ผิวใหม่ ทำให้รูขุมขนกระชับซึ่งจะป้องกันการเกิดสิว นอกจากนี้การหมุนเวียนของเซลล์ยังช่วยปรับสีผิวให้สม่ำเสมอด้วย นอกจากนี้เรตินอลยังช่วยเพิ่มการสร้างคอลลาเจนของผิว
ปกติแล้วร่างกายจะผลิตคอลลาเจนจำนวนมากตามธรรมชาติซึ่งจะช่วยส่งเสริมผิวที่อ่อนเยาว์และอวบอิ่ม แต่การผลิตคอลลาเจนเริ่มลดลงเมื่ออายุ 25 ปีขึ้นไป ดังนั้นการใช้เรตินอลจะช่วยส่งเสริมการผลิตคอลลาเจนในร่างกายซึ่งพิสูจน์แล้วว่าจะส่งเสริมความยืดหยุ่นของผิวในขณะที่จะช่วยคุณย้อนวัยโดยการลดริ้วรอยด้วย
เรตินอลกับเรตินอยด์เหมือนกัน เพราะเรตินอยด์ใช้เรียกกลุ่มอนุพันธ์ของวิตามินเอทั้งหมดซึ่งมีเรตินอลรวมอยู่ในอนุพันธ์นั้นด้วย
เรตินอลช่วยเรื่องอะไรกันแน่
ต้องถามว่ามีอะไรบ้างที่เรตินอลทำไม่ได้บ้าง? อย่างแรกเลย เรตินอลช่วยเร่งกระบวนการสร้างเซลล์ให้เร็วยิ่งขึ้น โดยเฉพาะเซลล์คอลลาเจนที่เสียหาย เรตินอลจะช่วยฟื้นฟูให้กลับมาเป็นปกติ เส้นริ้วรอยหรือรอยย่นต่าง ๆ จึงกลับมาแลดูตื้นขึ้นได้ ผิวจึงเรียบเนียนขึ้น แลดูกระจ่างใสขึ้น นอกจากนี้ยังลดการสร้างน้ำมันใต้ชั้นผิว จึงเหมาะสำหรับการรักษาสิวอุดตัน
แต่ก่อนทุกคนจะหยิบสกินแคร์เรตินอลลงตะกร้า…เรตินอลนั้นไม่ใช่ส่วนผสมที่ฟื้นฟูผิวได้รวดเร็วทันใจอย่างพวกไฮยาลูรอนิคแอซิดหรือวิตามินซี ถ้าจะคิดจะปักใจกับเรตินอลต้องใช้แบบระยะยาว อย่างน้อยก็หนึ่งเดือนขึ้นไป คุณถึงจะเห็นผลลัพทธ์ที่แตกต่างกับผิว
แล้วควรเริ่มใช้ ‘เรตินอล’ เมื่อไหร่ดี?
ส่วนใหญ่แล้วอายุที่เหมาะสมสำหรับใช้เรตินอลคือ 20 ปลาย ๆ – 30 ต้น ๆ เพราะเมื่อเราเข้าวัยสามสิบยังแจ๋วแล้ว กระบวนการสร้างคอลลาเจนจะไม่ค่อยแจ๋วตาม มันจะเริ่มขี้เกียจมากขึ้นซึ่งเป็นสาเหตุทำให้เกิดริ้วรอยขึ้นมาได้ ดังนั้นสาว ๆ วัยทีน – วัยเริ่มทำงานอาจจะไม่มีความจำเป็นต้องใช้เพราะกระบวนการสร้างคอลลาเจนยังขยันอยู่
แล้วควรปรับสกินแคร์รูทีนอย่างไรดี?
เราขอแนะนำให้ได้ ‘เรตินอล’ ในตอนกลางคืนเท่านั้น หลังจากล้างหน้าแล้วซับให้แห้งสนิทก็ทาเรตินอลตามได้เลย จากนั้นค่อยตามด้วยมอยส์เจอร์ไรเซอร์อื่น ๆ หลังจากใช้แล้วเป็นเรื่องปกติที่จะรู้สึกยิบ ๆ ที่ผิวเล็กน้อยหรือผิวแห้งขึ้นเมื่อใช้เรตินอล แต่ถ้าใครที่ผิวแพ้ง่าย ก็ควรทดสอบผลิตภัณฑ์ก่อนใช้ หรือปรึกษาแพทย์ผิวหนังโดยตรงจะปลอดภัยที่สุด
ที่สำคัญ เราไม่แนะนำให้ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีเรตินอลร่วมกับกรดอื่น ๆ ด้วยกัน (เช่นวิตามินซีห้ามเด็ดขาด!) ส่วนที่สามารถใช้ร่วมกับได้ก็จะมี
● Retinol + Hyaluronic Acid ตัวไฮยาลูรอนิคจะช่วยปลอบประโลมผิว ลดการอักเสบจากเรตินอล
● Retinol + BHA/AHA ใช้เสริมกันได้ ช่วยเรื่องริ้วรอย ลดกระ ฝ้า จุดด่างดำ กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนให้ดียิ่งขึ้น
นอกจากนี้ ในช่วงกลางวันต้องใช้ครีมกันแดดที่มี SPF ไม่ต่ำกว่า 30 เมื่อใช้ผลิตภัณฑ์ผสมเรตินอลในเวลากลางคืน
ประเภทของเรตินอล
ในทางเทคนิคแล้วเมื่อเราพูดถึงเรตินอยด์นั้นเป็นความหมายโดยรวมสำหรับอนุพันธ์ของวิตามินเอทั้งหมด แต่อันที่จริงแล้วเรตินอยด์มีหลายประเภทมาก เช่น Retinyl Palmitate (ฤทธิ์บางเบาที่สุด), Retinaldehyde (ฤทธิ์ปานกลาง) และ Adapalene (ฤทธิ์แรงที่สุดและเป็นตัวเลือกพิเศษสูตรเฉพาะเพื่อรักษาสิว) นอกจากนี้ยังมีเรตินอยด์ที่ต้องให้แพทย์ผิวหนังจ่ายยา คือ Tretinoin หรือ Tazarotene เรตินอยด์นี้จะทำงานได้เร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่ก็อาจทำให้ระคายเคืองมากขึ้นเช่นกัน
แล้วเราควรเลือกเรตินอยด์ตัวไหนดี? ตามหลักการแล้วคุณควรให้ผิวหนังของคุณแนะนำตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับสภาพผิวของคุณ แต่เมื่อเริ่มต้นให้ใช้เรตินอยด์ที่อ่อนโยนที่สุด เช่น Retinyl Palmitate (สำหรับผิวบอบบางหรือผิวแห้ง) หรือเลือกใช้เรตินอล (สำหรับผิวทั่วไป) เมื่อใช้จนเคยชินแล้วสามารถเปลี่ยนเป็นสูตรที่มีความเข้มข้นสูงขึ้นได้ ไม่ว่าคุณจะเลือกเรตินอยด์ตัวไหนแต่จงรู้ไว้ว่าเรตินอยด์ทั้งหมดนี้มีประสิทธิภาพในระยะยาวอย่างแน่นอน
วิธีเลือกซื้อเซรั่มเรตินอลที่ดีที่สุด
1. ความเข้มข้นของเรตินอล
คุณอาจเคยได้ยินว่าสารเรตินอลสามารถก่อให้เกิดการระคายเคืองได้ ซึ่งโดยพื้นฐานแล้วมันเป็น “จริง” ค่ะเพราะว่าเรตินอลจะทำให้ผิวผลัดเซลล์ในอัตราที่เร็วขึ้น นี่คือเหตุผลที่ความเข้มข้นของเรตินอลเป็นสิ่งสำคัญโดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคุณไม่เคยใช้มันมาก่อน นอกจากนี้ความเข้มข้นที่คุณเลือกยังช่วยให้คุณหลีกเลี่ยงไม่ให้ผิวแห้งและลอกได้อีกด้วย ความเข้มข้นต่ำสุดที่คุณจะพบในเรตินอลคือ 0.1% (ต่ำมากและจะไม่ส่งผลอะไรกับผิวของคุณ) และสูงสุดคือประมาณ 2% ค่ะ สำหรับผู้เริ่มต้นควรเลือกเรตินอลความเข้มข้นที่ต่ำและควรทดสอบก่อนใช้งานเป็นเวลาสองสามสัปดาห์ หากคุณไม่เห็นการระคายเคืองใด ๆ ก็สามารถใช้งานได้อย่างปลอดภัย
2. ส่วนผสมเพิ่มเติม
เรตินอลถูกใช้ในเซรั่มเนื่องจากช่วยในการผลัดเซลล์และเพิ่มระดับคอลลาเจนในผิวของคุณทำให้ผิวดูกระชับและเรียบเนียนขึ้น ดังนั้นเซรั่มเรตินอลที่สุดที่คุณจะเจอจะวางตลาดเป็นเซรั่มต่อต้านริ้วรอย มีการกำหนดเป้าหมายโดยตรงในการลดริ้วรอย อย่างไรก็ตามเรตินอลยังมีคุณสมบัติปรับสีผิวของคุณและลดรูขุมขนได้ ดังนั้นจึงไม่ได้มีไว้สำหรับต่อต้านริ้วรอยเท่านั้น หากคุณต้องการให้ผิวเปล่งปลั่งหรือเน้นการให้ความชุ่มชื้น ควรจับตาดูส่วนผสมเพิ่มเติม เช่น กรดไฮยาลูโรนิกและสควาเลนซึ่งสามารถช่วยให้ผิวอิ่มน้ำและเพิ่มความชุ่มชื้นได้ วิตามินซีและสารต้านอนุมูลอิสระอื่น ๆ มีชื่อเสียงในด้านการเพิ่มความกระจ่างใส ในขณะที่ว่านหางจระเข้ ดอกกุหลาบและน้ำมันจากพืชจะสามารถช่วยลดการระคายเคืองได้
3. ช่วงเวลาที่แนะนำให้ใช้งาน
แม้ว่าเรตินอลในเซรั่มบางตัวจะได้รับการออกแบบมาเพื่อใช้เป็นส่วนหนึ่งของกิจวัตรประจำวันทั้งในตอนเช้าและตอนเย็น แต่คุณควรเลือกใช้ในเวลากลางคืนเท่านั้นเพราะเรตินอลจะสลายตัวในแสงแดดและทำให้ผิวของคุณไวต่อแดดมากขึ้น ซึ่งหมายความว่าคุณจะเสี่ยงต่อการถูกทำร้ายจากแสงแดดได้มากขึ้นเมื่อคุณใช้ผลิตภัณฑ์เรตินอล ดังนั้นแม้ว่าคุณจะทาเฉพาะตอนกลางคืนแต่อย่าลืมเตรียมครีมกันแดดไว้ให้พร้อมและใช้เมื่อออกแดด แต่หากคุณรู้ว่าคุณอาจต้องเผชิญกับแสงแดดเป็นประจำวันในหนึ่งสัปดาห์ควรใช้เรตินอลให้น้อยลงค่ะ
4. รูปแบบของบรรจุภัณฑ์
โดยปกติเรตินอลเซรั่มจะถูกเก็บไว้ในขวดที่มีหัวปั๊มหรือหลอดปิเปต (หลอดหยด) สำหรับการใช้งาน หลอดหยดนั้นมีประโยชน์มาก เนื่องจากจะช่วยประหยัดผลิตภัณฑ์ได้มาก ส่วนขวดปั๊มคุณอาจจะเผลอกดออกมามากเกินไปโดยไม่ได้ตั้งใจและทำให้สิ้นเปลือง นอกจากนี้เซรั่มเรตินอลยังมีรูปแบบแคปซูลด้วย ซึ่งมีประโยชน์หากคุณไม่ต้องการวัดปริมาณเซรั่มทุกครั้งที่ทา นอกจากนี้ยังมีประโยชน์หากคุณกำลังเดินทางไปท่องเที่ยวเพราะคุณสามารถพกพาได้และมันจะไม่หกใส่กระเป๋าของคุณ อย่างแน่นอน
เรตินอลทำให้ผิวระคายเคืองจริงหรือไม่ ?
เนื่องจากเรตินอลทำให้ผิวหนังผลัดเซลล์เร็วกว่าปกติคุณจึงมีแนวโน้มที่จะมีผิวแห้งและระคายเคืองเมื่อใช้เรตินอล แต่อาการนี้จะเป็นอยู่ประมาณ 2-3 สัปดาห์เท่านั้น หากผิวแข็งแรงขึ้นแล้วอาการระคายเคืองจะหายไป หากคุณกังวลเรื่องอาการระคายเคืองให้ ทดสอบอาการแพ้ ก่อนใช้ หากมีอาการรุนแรงมากผลิตภัณฑ์อาจจะไม่เหมาะกับคุณ
หลายคนอาจจะกังวลถ้าซื้อไม่แล้วใช้ไม่งานไม่ได้จะเปลืองเงิน ในข้อนั้นไม่ต้องกังวลไปค่ะ เพราะคุณสามารถซื้อเซรั่มขวดเล็กได้ เซรั่มขวดขนาดเล็กนั้นออกแบบมาสำหรับผู้ที่ต้องการทดลองใช้เซรั่มเรตินอลในครั้งแรก โดยปกติจะมีปริมาณ 15 มล. หรือ 30 มล. หากซื้อขนาดทดลองจะช่วยให้มั่นใจได้ว่ามันจะไม่เปลืองเงินมากเกินไป ในทางกลับกันหากคุณเคยใช้เซรั่มเรตินอลมาก่อนและคุ้นเคยกับความเข้มข้นแล้ว เซรั่มปริมาณ 50 มล.ขึ้นไปจะเหมาะกับคุณมากกว่าเพราะมันจะช่วยคุณประหยัดเงินในระยะยาว
เรตินอล กับ วิตามินซี ใช้คู่กันได้ไหม
ต้องบอกก่อนว่า สาร 2 ตัวนี้คือแทบจะเรียกว่าเป็น Gold Standard Ingredients ของ skincare เพราะงานวิจัยเยอะและดี ทั้งคู่
การใช้ คู่เนี้ยเป็นอะไร ที่ยอดเยี่ยมเช่นกัน แต่เพราะ pH ที่ไม่เท่ากันเนี้ยเลยเกิดปัญหาขึ้นว่า ใช้ด้วยกันได้ไหมเมื่อก่อนเราเชื่อว่าการดูดซึมของ vit C ที่มี pH ต่ำๆ เนี้ยส่งผลต่อประสิทธิภาพของ retinol นี้คือ แต่ไม้ได้มีการทดสอบจริงๆว่า มันเป็๋นแบบนี้จริงไหม ในการทาจริงๆ
แต่ !!!! งานวิจัยใหม่ก็บอก ไม่จริงนะ การทา วิตามินซี + เรตินอล เนี้ย วิตามินซี ช่วยให้ เรตินอล เสถียรและลดการทำลาย เรตินอล ผ่าน อนุมูลอิสระด้วยนะ แถมยังมีประสิทธิภาพด้วยและก็มีงานวิจัยที่ศึกษาใช้ วิตามินซี + เรตินอล คู่กันพบว่ายังช่วยกระตุ้นโครงสร้างชั้นผิวไขมันเราให้ดีขึ้นเสริมประสิทธิภาพในเรื่องเสริมชั้นผิวด้วยนะ นอกจากผิวหมองก็ช่วยผิวให้ไปในทางที่ดีด้วยมีงานวิจัย ทดสอบ โดยการผสม เรตินอล + Vitamin C ก็พบว่ามีประสิทธิภาพ
ไม่ว่าจะเป็นของ Lo’real หรือ Revision Skincare หรือ Cliv พบว่ามีประสิทธิภาพหวังผลได้หมด(แม้จะเป็นงานวิจัยที่ทำโดยแบรนแต่ มีบางงานวิจัยทดก่อน พัฒนาทดสอบก่อนจะผลิตตำหรับของสินค้าใหม่ หรือ พัฒนาสินค้า ถ้าหากมันไม่ work เค้าไม่น่าจะลงทุนทำพัฬฒนาต่อหรอก ไม่คุ้มเสีย
เราเองก็อยากให้มีงานวิจัยแบบนี้กลุ่มแรก ทาเรตินอล กับ Vit C คนละเวลา ครึ่งซีก อีกกลุ่ม Retinol + Vitamin C ตัวเดียวกันทาพร้อมกัน คนละครึ่งหน้าแล้วมาดู ว่าค่าเฉลี่ยแต่ละกลุ่มแตกต่างกันใหม่ ( pair T test ) เทียบกัน เลย ถ้ามันไม่ต่าง แสดงว่า ทาพร้อมกันทาแยกไม่มีผล รอ งานวิจัยนี้อยู่เผือใครสนใจจะทำ และ ตีพิมพ์
บทสรุป เรตินอล คืออะไร เรตินอลช่วยเรื่องอะไร
เป็นอย่างไรกันบ้างคะสำหรับเซรั่มเรตินอลที่เราได้แนะนำไปในวันนี้ เราหวังว่าทุกคนจะสามารถเลือกซื้อสินค้าที่ถูกใจได้นะคะ ปกติแล้วเซรั่มเรตินอลทำงานเพื่อลดริ้วรอยและเส้นริ้ว เรตินอลจะทำงานโดยการเพิ่มหลอดเลือดในผิวหนังซึ่งจะช่วยปรับสีผิว แต่เมื่อคุณใช้งานแล้วโปรดจำไว้ว่าเราไม่สามารถคาดหวังว่าจะเห็นผลลัพธ์ภายในชั่วข้ามคืน การใช้ครีมเรตินอลนั้นควรใช้เวลาประมาณ 12 สัปดาห์เพื่อสังเกตผล สิ่งสำคัญคือต้องจำไว้ว่าผลิตภัณฑ์แต่ละยี่ห้อและแต่ละสูตรแตกต่างกันไป ในบางยี่ห้ออาจมีประสิทธิภาพน้อยกว่าผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ก็เป็นไปได้ค่ะ
สำหรับการใช้งานนั้นไม่ยากมากค่ะ เซรั่มเรตินอลเป็นเซรั่มสูตรที่มีประสิทธิภาพแต่ไม่ควรใช้ทุกวัน คุณควรเริ่มใช้เซรั่มเรตินอลสัปดาห์ละครั้งจนกว่าผิวของคุณจะสร้างความทนทานของเซรั่มได้ หลังจากนั้นแนะนำให้ทาวันเว้นวัน ถึงแม้ว่าเซรั่มแต่ละยี่ห้อจะแนะนำให้ใช้กลางคืนแต่เซรั่มก็ทำให้ผิวของคุณไวต่อแสงแดดมากขึ้น ดังนั้นโปรดใช้มาตรการที่เหมาะสมเพื่อปกป้องผิวของคุณจากแสงแดดในแต่ละวันด้วยนะคะ
เรื่องน่ารู้อื่นๆ
สาเหตุและปัญหาใต้ตาคล้ำเกิดจากอะไร มีวิธีการแก้ปัญหาขอบตาแพนด้าแบบง่ายๆกันอย่างไร
อ่านเพิ่มเติมมิ.ย.
เซรั่มวิตซีเกาหลี คืออะไร? จริงหรือไม่!! ที่ช่วยให้ผิวหน้าขาวใส ไร้รอยสิว
อ่านเพิ่มเติมก.ค.
วิธีการทำความสะอาดผิวหน้า ให้ดูเหมือนจะเป็นเรื่องพื้นๆง่ายๆ
อ่านเพิ่มเติมต.ค.
เวชสำอาง กับ เครื่องสำอางผลิตภัณฑ์บำรุงผิว คืออะไรและแตกต่างกันอย่างไร
อ่านเพิ่มเติมต.ค.
เซรั่มไฮยาลูรอนเกาหลี ไฮยาลูรอน คืออะไร? มีประโยชน์อย่างไรในการบำรุงผิว
อ่านเพิ่มเติมเม.ย.
เซรั่มหน้าใส หรือหน้าขาว จากเกาหลี คืออะไร ต้องถูกและดี มาตำกันค่ะ เพราะเรานั้นบอกหมดเปลือกทุกๆอย่าง
อ่านเพิ่มเติมพ.ค.
การดูแลผิวหน้าให้ใสกิ๊ก เคล็ดลับ 4 วิธี แม้อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อยๆ
อ่านเพิ่มเติมต.ค.
เซรั่มลดเลือนริ้วรอย ช่วยป้องกัน ได้ผลจริงหรือไม่ ราคาถูกและแพงผลลัพธ์ต่างกันมั้ย?
อ่านเพิ่มเติมก.พ.
มาดูเคล็ดลับ 10 วิธีดูแลตัวเองให้สวยขึ้นเปลี่ยนแปลงในแบบธรรมชาติ ที่ใครๆก็ทำตามได้ทุกคน !!!
อ่านเพิ่มเติมมิ.ย.
8 เทคนิคง่ายๆ ที่วิธีทำให้รูขุมขนหน้าเล็กลง เผยผิวหน้าเนียนสวยเป๊ะ
อ่านเพิ่มเติมมี.ค.
สิวคืออะไร สาเหตุและอาการของสิว มีอะไรบ้างมาทำความรู้จักกันเถอะ
อ่านเพิ่มเติมมิ.ย.
มาดูเคล็ดลับการเลือกซื้อสกินแคร์หน้าขาวกระจ่างใส ยังไงให้ได้ของถูกและดี!!
อ่านเพิ่มเติมเม.ย.
การเกิดสิวมีสาเหตุหลักมาจากอะไร ที่เราควรต้องรู้ จะได้แก้ปัญหาและป้องกันการเกิดสิวได้ตรงจุด
อ่านเพิ่มเติมมิ.ย.
The Top Serect ที่สาวๆ ทุกคน ต้องอยากจะรู้ อ้ายคุณ “น้ำตบ” คืออะไร ? เค้าเป็นใคร ? มาจากไหน ? อยู่ๆ ทำไมถึงเป็นแรร์ไอเทมของผิวหน้า
อ่านเพิ่มเติมเม.ย.
เรื่องสิว สิวและสาเหตุการเกิดสิวนั้นที่พวกคุณอาจไม่เคยรู้กันมาก่อนเลย มาตำกันค่ะ
อ่านเพิ่มเติมเม.ย.
สครับหน้า ตัวกู้ผิวหน้า ขัดนิด สครับอีกหน่อย ช่วยอะไรได้บ้างมารีวิวดูกัน
อ่านเพิ่มเติมม.ค.
สาเหตุของการเกิดสิว และสิวเกิดจากอะไรบ้าง มาดูกันได้เลย
อ่านเพิ่มเติมพ.ย.
9 เคล็ดลับการดูแลสุขภาพผิวให้สวยใส ทั้งจากการทำความสะอาด ทาครีม การเลือกทานอาหาร และการพักผ่อน
อ่านเพิ่มเติมพ.ย.
ล้างหน้าสด โชว์หน้าใส โฟมล้างหน้าลดสิว ตัวช่วยดูแลสิวที่หน้าต้องมี ในช่วงเที่ยวทิพย์แบบนี้
อ่านเพิ่มเติมมิ.ย.
ทำอย่างไรให้ผิวหน้าขาวใส 5 วิธีดูแลผิวหน้า อย่างเป็นธรรมชาติ ช่วยให้รูขุมขนกระชับ
อ่านเพิ่มเติมก.ค.